นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการส่งเสริมและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อรายงานความคืบหน้าของแผนงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมไมซ์ อาทิ แผนการจัดทำ City Package ของจังหวัดเชียงใหม่เพื่อส่งเสริมการทำ Destination Marketing, การจัดทำปฏิทินเทศกาล 12 เดือน 12 ธีม ตลอดจนการรายงานสถิติอุตสาหกรรมไมซ์ประจำปีงบประมาณ 2566 และสถิติครึ่งปีแรกของปีงบประมาณ 2567 รวมทั้งแนวโน้มอุตสาหกรรมไมซ์ในอีก 3 – 5 ปีข้างหน้า
ประเด็นสำคัญซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการฯ ไมซ์ได้หารือและพิจารณาเห็นชอบคือ การขับเคลื่อนปฏิทินเทศกาล 12 เดือน 12 ธีม ภายใต้แนวคิดการใช้อีเว้นท์และงานเทศกาลขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เพื่อส่งเสริมให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวเชิงธุรกิจและการท่องเที่ยวคุณภาพสูง มุ่งหวังใช้งานเทศกาลดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเยือนจังหวัดเชียงใหม่อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี
ปฏิทินเทศกาล 12 เดือน 12 ธีม จะนำมาขับเคลื่อนการตลาดเมืองและสร้าง City Branding ในฐานะเมืองเทศกาลโลก ทั้งยังเป็นกรอบแนวทางในการทำตลาดและประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่ให้ง่ายต่อการสร้างการรับรู้และจดจำแก่นักเดินทางไมซ์และนักท่องเที่ยว
นอกจากนี้ ยังช่วยให้ผู้ประกอบการในพื้นที่นำไปเป็นแนวทางในการออกแบบจัดทำเส้นทางท่องเที่ยวตลอดจนกิจกรรมส่งเสริมการขายที่สอดคล้องกับธีมในแต่ละเดือน ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้สามารถเลือกเดินทางมาเยือนจังหวัดเชียงใหม่เพื่อสัมผัสประสบการณ์หลากหลายตามความสนใจและความชอบได้มากขึ้น เพิ่มโอกาสด้านการท่องเที่ยวโดยไม่ยึดติดกับฤดูกาลอีกต่อไป
ยิ่งไปกว่านั้น นักเดินทางไมซ์ยังสามารถวางแผนในการจัดประชุมและนิทรรศการ การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล และกิจกรรมองค์กรต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับช่วงเวลาเทศกาลหรือกิจกรรมสำคัญของเมือง ซึ่งจะเป็นการเพิ่มรายได้และสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจได้มากยิ่งขึ้น โดยกระตุ้นให้แต่ละหน่วยงานร่วมพัฒนาและส่งเสริมสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้องร่วมกับภาคีเครือข่ายให้สอดคล้องกับแนวคิด 12 เดือน 12 ธีมดังกล่าวด้วย
สำหรับปฎิทิน 12 เดือน 12 ธีม ประกอบด้วย
เดือนมกราคม กำหนดให้เป็นเดือนแห่งการเริ่มต้นใหม่ เดือนแห่งความสุขและการเฉลิมฉลองภายใต้แนวคิด Festive & Happiness
เดือนกุมภาพันธ์ ให้ความสำคัญกับงานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับและเทศกาลเชียงใหม่บลูมส์ซึ่งเป็นเทศกาลหลักและแม่เหล็กสำคัญ ภายใต้แนวคิด Chiangmai Flowers Blooming ส่งเสริมการใช้ดอกไม้เป็นองค์ประกอบหลักของกิจกรรมต่าง ๆ ตลอดเดือน
เดือนมีนาคมกำหนดแนวคิดของ Education, Workation และ Recreation มุ่งเน้นกิจกรรมด้านการศึกษาเรียนรู้, การทำงานแบบไร้สาย รวมถึงกิจกรรมนันทนาการในแหล่งเรียนรู้ เช่น อุทยานดาราศาสตร์ สิรินธร, พิพิธภัณฑ์ และแกลเลอรี่ต่าง ๆ
เดือนเมษายน มีเทศกาลหลักคือ เทศกาลสงกรานต์หรือประเพณีปี๋ใหม่เมือง มุ่งเน้นการสืบสานประเพณีวัฒนธรรมและความสนุกสนานของสงกรานต์เชียงใหม่ด้วยแนวคิด ปี๋ใหม่เมืองล้านนา สนุกสนาน สืบสานวัฒนธรรมด้วยกิจกรรมหลากหลายตลอดเดือน
เดือนพฤษภาคม กำหนดแนวคิด ศรัทธา ศาสนา และแรงบันดาลใจ เปิดเส้นทางท่องเที่ยวเอาใจสายมูและเส้นทางตามรอยครูบาเจ้าศรีวิชัย
เดือนมิถุนายน กำหนดแนวคิด Pride Month สะท้อนความเป็นเมืองแห่งสีสันและความสุขที่หลากหลายของเชียงใหม่ ครอบคลุมทั้งในแง่ของความหลากหลายทางเพศ ความหลากหลายทางชาติพันธุ์ และความหลากหลายของวัย
เดือนกรกฎาคม ยกระดับงาน Lanna Expo ให้โดดเด่น รวมทั้งกิจกรรมการประชุมสัมมนาต่าง ๆ
เดือนสิงหาคม นำเสนอแนวคิด Fit, Firm & Fight ส่งเสริมแพ็กเกจสุขภาพ รวมถึงกิจกรรมกีฬาต่าง ๆ
เดือนกันยายน กำหนดให้เป็นเดือนแห่งการแสดงผลงานและกิจกรรมของศิลปินหลากหลายแขนง ทั้ง Music และ Performing Art
เดือนตุลาคม กำหนดแนวคิด International Festival เชิญชวนกงสุลต่างประเทศในจังหวัดเชียงใหม่ให้ร่วมจัดอีเว้นท์/เทศกาลต่าง ๆ อาทิ Food, Film, Fashion
เดือนพฤศจิกายน ยกระดับงานเทศกาลยี่เป็งด้วยสินค้าและบริการใหม่ ๆ ขยายกลุ่มผู้เข้าร่วมงาน
เดือนธันวาคม ขยายผลงานเชียงใหม่ดีไซน์วีค, งาน Nap และงานสร้างสรรค์อื่น ๆ กำหนดเป็นเดือนแห่ง Creativity & Design
ทั้งนี้แนวคิดของการจัดทำ 12 เดือน 12 ธีม อ้างอิงจากกิจกรรมที่เคยจัดขึ้นเป็นประจำ โดยนอกจากเทศกาลหลัก ๆ แล้ว ยังมีเรื่องราวของกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับประเพณี ความเชื่อทางศาสนา และกิจกรรมอื่น ๆ ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีโดยหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน
นอกจากนี้ ยังจะบูรณาการปฏิทินอาหาร, พืชผักพื้นบ้าน และผลไม้ตามฤดูกาลตลอดทั้งปี นำอัตลักษณ์ด้านอาหารมาส่งเสริม Gastronomy tourism ทั้งยังเป็นการเน้นย้ำว่าในทุก ๆ เดือน นักเดินทางไมซ์และนักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินและสัมผัสประสบการณ์ของเชียงใหม่ได้ในทุกมิติ
ทั้งนี้ ทีเส็บคาดว่าการขับเคลื่อนเชียงใหม่เมืองเทศกาลด้วยปฏิทิน 12 เดือน 12 ธีม จะนำไปสู่การสร้างผลกระทบเชิงบวกทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมที่สร้างคุณค่าแก่เมือง สอดคล้องกับนโยบายการสร้างเศรษฐกิจด้วยงานเทศกาล หรือ
โดยหากบูรณาการในทุกภาคส่วนและดำเนิFestival Economy นการอย่างต่อเนื่อง จะยิ่งเพิ่มการรับรู้และสร้างการจดจำแก่นักท่องเที่ยว ทำให้สามารถวางแผนการเดินทางล่วงหน้าได้ ผู้ประกอบการก็สามารถคาดการณ์รายได้และวางแผนการส่งเสริมการขายได้อย่างแม่นยำขึ้น หลังจากนี้จะมีการสื่อสารประชาสัมพันธ์ไปยังหน่วยงานท้องถิ่นในพื้นที่รวมถึงภาคเอกชนให้รับทราบเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนเชียงใหม่เมืองเทศกาลต่อไป
เดือนกรกฎาคม ยกระดับงาน Lanna Expo ให้โดดเด่น รวมทั้งกิจกรรมการประชุมสัมมนาต่าง ๆ
เดือนสิงหาคม นำเสนอแนวคิด Fit, Firm & Fight ส่งเสริมแพ็กเกจสุขภาพ รวมถึงกิจกรรมกีฬาต่าง ๆ
เดือนกันยายน กำหนดให้เป็นเดือนแห่งการแสดงผลงานและกิจกรรมของศิลปินหลากหลายแขนง ทั้ง Music และ Performing Art
เดือนตุลาคม กำหนดแนวคิด International Festival เชิญชวนกงสุลต่างประเทศในจังหวัดเชียงใหม่ให้ร่วมจัดอีเว้นท์/เทศกาลต่าง ๆ อาทิ Food, Film, Fashion
เดือนพฤศจิกายน ยกระดับงานเทศกาลยี่เป็งด้วยสินค้าและบริการใหม่ ๆ ขยายกลุ่มผู้เข้าร่วมงาน
เดือนธันวาคม ขยายผลงานเชียงใหม่ดีไซน์วีค, งาน Nap และงานสร้างสรรค์อื่น ๆ กำหนดเป็นเดือนแห่ง Creativity & Design
ทั้งนี้แนวคิดของการจัดทำ 12 เดือน 12 ธีม อ้างอิงจากกิจกรรมที่เคยจัดขึ้นเป็นประจำ โดยนอกจากเทศกาลหลัก ๆ แล้ว ยังมีเรื่องราวของกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับประเพณี ความเชื่อทางศาสนา และกิจกรรมอื่น ๆ ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีโดยหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน
นอกจากนี้ ยังจะบูรณาการปฏิทินอาหาร, พืชผักพื้นบ้าน และผลไม้ตามฤดูกาลตลอดทั้งปี นำอัตลักษณ์ด้านอาหารมาส่งเสริม Gastronomy tourism ทั้งยังเป็นการเน้นย้ำว่าในทุก ๆ เดือน นักเดินทางไมซ์และนักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินและสัมผัสประสบการณ์ของเชียงใหม่ได้ในทุกมิติ
ทั้งนี้ ทีเส็บคาดว่าการขับเคลื่อนเชียงใหม่เมืองเทศกาลด้วยปฏิทิน 12 เดือน 12 ธีม จะนำไปสู่การสร้างผลกระทบเชิงบวกทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมที่สร้างคุณค่าแก่เมือง สอดคล้องกับนโยบายการสร้างเศรษฐกิจด้วยงานเทศกาล หรือ Festival Economy
โดยหากบูรณาการในทุกภาคส่วนและดำเนินการอย่างต่อเนื่อง จะยิ่งเพิ่มการรับรู้และสร้างการจดจำแก่นักท่องเที่ยว ทำให้สามารถวางแผนการเดินทางล่วงหน้าได้ ผู้ประกอบการก็สามารถคาดการณ์รายได้และวางแผนการส่งเสริมการขายได้อย่างแม่นยำขึ้น หลังจากนี้จะมีการสื่อสารประชาสัมพันธ์ไปยังหน่วยงานท้องถิ่นในพื้นที่รวมถึงภาคเอกชนให้รับทราบเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนเชียงใหม่เมืองเทศกาลต่อไป