จังหวัดนครราชสีมา หรือ หลายคนเรียกกันติดปากว่า เมืองโคราช ถือเป็นจังหวัดใหญ่มีพื้นที่กว้างเป็นอันดับที่ 2 ของประเทศ แน่นอนว่า ด้วยความเป็นจังหวัดใหญ่พื้นที่มาก จึงมีแหล่งท่องเที่ยวอยู่หลายแห่ง แต่ที่ผ่านมาหลายคนที่มักปักธง “เที่ยวโคราช” อาจจะรู้จักแค่ไปเที่ยวเขาใหญ่ แต่ที่จริงแล้วจังหวัดพี่ใหญ่แห่งอีสานนี้ มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจน่าซ่อนตัวอยู่ตามจุดต่าง ๆ รอให้นักท่องเที่ยว นักเดินทางเข้าไปเยียมเยือน
ล่าสุด ฐานเศรษฐกิจ และคณะผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจประจำทำเนียบรัฐบาล ได้มีโอกาสเดินทางไปกับคณะของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อสำรวจการท่องเที่ยวในเมืองนครราชสีมา พร้อมทั้งได้สัมภาษณ์พิเศษ “อรรถพล วรรณกิจ” ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ททท. เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวสถานที่น่าเที่ยวของโคราชแบบเจาะลึก
“อรรถพล” ยอมรับว่า นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดนครราชสีมานั้น ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยเกือบ 100% ส่วนมากมักเลือกขับรถมาเที่ยววังน้ำเขียว และอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แต่ในเมืองโคราช กลับมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาน้อย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ ซึ่งที่จริงแล้ว จังหวัดนครราชสีมามีแหล่งท่องเที่ยวที่งดงามและหลากหลาย ทั้งเชิงวัฒนธรรม ศิลปะ อาหาร ประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ และกิจกรรมอื่น ๆ ตลอดทั้งปี
สำหรับสินค้าหลักที่ ททท. มองว่าจะเป็นจุดขายหลักของการท่องเที่ยวจังหวัดนคราชสีมา เพื่อดึงคนให้เข้ามาเที่ยวโคราชนั้น มีด้วยกัน 3 เส้นทางใหญ่ ๆ คือ เส้นทางท่องเที่ยว 3 มรดกโลกยูเนสโก เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ, เส้นทางท่องเที่ยวอารยธรรมขอม และเส้นทางสายศรัทธา "ไหว้พระเมืองโคราช"
เที่ยว 3 มรดกโลกยูเนสโก
ความพิเศษของจังหวัดนครราชสีมา ณ ปัจจุบัน ซึ่งได้รับการการันตีในระดับโลก นั่นคือเป็นจังหวัดแรกและจังหวัดเดียวในประเทศไทย และเป็นประเทศที่ 3 ของโลก ต่อจากเกาหลีใต้และจีน ที่ได้รับการประกาศเป็น “เมือง 3 มรดกโลกยูเนสโก” (UNESCO Triple Heritage City) นั่นคือ
ผอ.ภูมิภาคฯ ททท. ยอมรับว่า การมีเมือง 3 มรดกโลกยูเนสโกอยู่ที่นี่ ทำให้จังหวัดนครราชสีมามีความน่าสนใจจากนักท่องเที่ยวมากขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งเดิมเดินทางเข้ามาเที่ยว คิดเป็นสัดส่วนแค่ 2% เท่านั้น แต่เมื่อมีการประกาศให้เป้นเมืองมรดกโลกเพิ่มขึ้นอีกแห่ง นั่นคือ โคราช จีโอพาร์ค ก็น่าจะทำให้นักท่องเที่ยวที่นิยมท่องเที่ยวตามรอยมรดกโลกเดินทางมาเยี่ยมชมมากขึ้น
เส้นทางท่องเที่ยวอารยธรรมขอม
เส้นทางท่องเที่ยวอีกอย่างที่น่าสนใจ คือ การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ดั้งเดิมของจังหวัดนครราชสีมา โดยนอกเหนือจาก “ย่าโม” หรือ ท้าวสุรนารี วีรสตรีไทยผู้อยู่ในหัวใจของชาวโคราชทุกคนแล้ว โคราชยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์อีกแห่งที่สำคัญ นั่นคือ อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย
โดยมี "ปราสาทหินพิมาย" เป็นโบราณสถานสมัยขอมที่ใหญ่โตและงดงามอลังการ และทีนี่ยังเป็นสถานที่รวบรวมหลักฐานทางโบราณคดีและจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับความเจริญรุ่งเรืองของวัฒนธรรมอีสานในอดีต โดยเฉพาะโบราณวัตถุและศิลปวัตถุที่ค้นพบในเขตอีสานตอนล่าง
ทั้งนี้ ททท. ได้มีการจัดงานเทศกาลเที่ยวพิมาย และงานแข่งขันเรือยาวประเพณีชิงชนะเลิศถ้วยพระราชทานฯ ปี 2567 วันที่ 6-10 พฤศจิกายน 2567 ณ อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย อ.พิมาย เป็นการจัดงานแสดงแสงสีเสียง และจะขยายผลร่วมกับโรงแรม และผู้ประกอบการต่าง ๆ ในพื้นที่ด้วย
เส้นทางสายศรัทธาไหว้พระ ทำบุญ
สำหรับเส้นทางท่องเที่ยวสายศรัทธาโดยแนะนำ วัดธรรมจักรเสมาราม หรือ วัดพระนอน คลองขวาง ซึ่งมีความเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่ที่บ้านคลองขวาง ตำบลเสมา อำเภอสูงเนิน แต่เดิมบริเวณนี้เป็นศาสนสถานในสมัยทวารวดี
เดิมบริเวณนี้เป็นศาสนสถานในสมัยทวารวดี มีโบราณวัตถุที่สำคัญ คือ พระพุทธรูปปางไสยาสน์ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1200 พระเศียรอยู่ทางทิศใต้ หันหน้าไปทางทิศตะวันออก นอกจากนี้ยังมี ธรรมจักรหินทราย มีหน้ากาลทั้ง 2 ด้าน ตอนล่างสลักลายคล้ายหน้าพนัสบดี (เจ้าป่า ต้นโพธิ์ ต้นไทร) เก็บรักษาไว้ในศาลา
ส่วนโบราณวัตถุอื่น ๆ ได้นำไปจัดแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย ได้แก่ พระพุทธรูปสัมฤทธิ์ พระพิมพ์ดินเผา ลูกปัดแก้ว แวดินเผา (Spindle Whorl) ที่ใช้ปั่นด้าย และศิลาจารึกเก่าแก่ของจังหวัด
นอกจากนี้ยังมีเส้นทาง "ไหว้พระเมืองโคราช" โดยมีวัดสำคัญ ๆ ของจังหวัดหลายแห่ง ประกอบไปด้วย วัดพระนารายณ์ วัดศาลาลอย วัดบึง วัดสระแก้ว วัดป่าสาลวัน วัดพายัพ วัดอิสาน และวัดหมื่นไวย เป็นต้น
เที่ยวเชิงวัฒนธรรม เพลง มวย แมว
จังหวัดนครราชสีมา มีความโดดเด่นด้านวัฒนธรรมที่พิเศษแตกต่างจากจังหวัดอื่น โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอย่างหลากหลาย ทั้งอาหาร วิถีชีวิต และศิลปะ เริ่มต้นจาก “เพลงโคราช” เป็นการร้องเพลงโต้ตอบที่พัฒนามาเป็นการแสดงพื้นบ้านของชาวโคราช ซึ่งได้สืบทอดกันมาเป็นเวลายาวนาน มีเอกลักษณ์อยู่ที่การร้องรำเป็นภาษาโคราช
สมัยก่อนเพลงโคราชเป็นที่นิยมมาก การแสดงมหรสพต่างๆ มีเพลงโคราชเพียงอย่างเดียว ปัจจุบันค่านิยมของผู้ฟังเพลงโคราชเปลี่ยนแปลงไปมาก ทั้งด้านเนื้อหา รูปแบบการแสดง และความนิยมของคนโคราชเอง เนื้อหาของเพลงโคราชขึ้นอยู่กับโอกาสที่จะเล่น ส่วนใหญ่จะเล่าเรื่อง นิทานชาดก
ปัจจุบันยังมีความเชื่อว่า ท้าวสุรนารีในสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ ชื่นชอบเพลงโคราชมาก จึงมีผู้หาเพลงโคราชไปเล่นแก้บน ณ บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีในตอนกลางคืนและกลางวันเป็นประจำ และยังมีอีกที่คือวัดศาลาลอย จึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้หมอเพลงโคราช ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ที่ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ยังคงสามารถประกอบอาชีพอยู่ได้ ตัวอย่างคณะเพลงโคราชที่โดดเด่นอยู่ที่อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมาคือคณะ กำปั่นบ้านแท่น นั่นเอง
“แมวโคราช” เป็นแมวไทยพื้นบ้าน หรือบางคนมักเรียกว่า แมวสีสวาด เนื่องจากขนของแมวโคราชมีสีเหมือนเมล็ดของต้นสวาด ต้นกำเนิดพบที่อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา โดยที่ผ่านมามักมีคำเปรียบเปรยคนโคราช ที่มีความผูกพันกับแมวว่า “คนโคราชหน้าใหญ่ นิสัยแมว” ซึ่งปัจจุบันได้มีการนำแมวโคราช มาออกแบบเป็นสินค้าอย่างหลากหลาย เช่น กางเกงแมวโคราช ที่ตอนนี้ได้รับความนิยมสูง
“มวยโคราช” นับเป็นอีกหนึ่งวัฒนธรรมที่ขึ้นชื่อของเลือดนักสู้ของชาวจังหวัดนครราชสีมา ความพิเศษของมวยโคราช มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สำคัญ โดยเป็นการต่อสู้แบบมือเปล่า ถือเป็นสุดยอดมวยอีกแห่งหนึ่ง ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักทั่วทั้งประเทศ
จุดเด่นของมวยโคราช จะมีการสวมมงคลอยุ่ตลอดเวลา ส่วนหมัดจะคาดด้วยเชือกเอาไว้ตั้งแต่อุ้งมือถึงแขน บริเวณต้นแขนมีผ้าประเจียด และสวมกางเกงขาสั้นผูกผ้าขาวม้า มีอาวุธแม่ไม้มวยสำคัญนั่นคือ หมัดเหวี่ยงควาย เพื่อใช้ทำลายคู่ต่อสู้
ปัจจุบันททท. กำลังหาทางส่งเสริมนำศิลปะการต่อสู้นี้นำไปเปิดตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวยุโรป และอเมริกา ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นแม่เหล็กสำคัญในการดึงนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบศิลปะการต่อสู้ เข้ามาฝึกมวยโคราชที่ค่ายมวยต่าง ๆ ในจังหวัดที่มีอยู่หลายแห่ง
ปัจจุบัน ภาพรวมสถานการณ์ท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา ปี 2567 เดือนมกราคม-เมษายน มีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนรวมทั้งสิ้น 2,821,084 คน-ครั้ง สร้างรายได้แล้ว 5,674 ล้านบาท
ทั้งนี้ ททท. เชื่อมั่นว่า ช่วงเดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นไฮซีซั่นของการท่องเที่ยวและการจัดอีเวนต์ของจังหวัดนครราชสีมา และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐและเอกชน จะเข้ามาเป็นแม่เหล็กสำคัญในการกระตุ้นการออกเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติเข้ามายังจังหวัดนครราชสีมา เฉลี่ยเดือนละ 1 ล้านคน
โดยในปี 2567 ททท.ตั้งเป้าหมายภาพรวมนักท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา เพิ่มขึ้นแตะ 10 ล้านคน-ครั้ง และสร้างรายได้ไม่น้อยกว่า 2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 พบว่า มีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนรวม 7,939,895 คน-ครั้ง แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย 7,785,906 คน-ครั้ง คิดเป็น 98 % และ นักท่องเที่ยวต่างชาติ 153,989 คน-ครั้ง คิดเป็น 2 % สร้างรายได้หมุนเวียน 14,895.28 ล้านบาท
นอกจากนี้ ททท. ยังได้รวรวมกิจกรรมและงานประเพณีจังหวัดนครราชสีมา ในช่วงครึ่งปีหลัง (กรกฎาคม - ธันวาคม 2567) ที่น่าสนใจไว้ดังนี้
เดือนกรกฎาคม 2567
เดือน สิงหาคม 2567
เดือน กันยายน 2567
เดือน พฤศจิกายน 2567
เดือน ธันวาคม 2567