นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บ้านปูจะดำเนินการเปิดจองหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม ระหว่างวันที่ 6-17 กันยายน 2564 เวลา 8.30 – 16.00 น. ผ่านบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นตัวแทนการรับจองซื้อหุ้น โดยผู้ถือหุ้นบ้านปูที่จะได้รับสิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน ต้องถือครองหุ้นบ้านปูก่อนวันขึ้นเครื่องหมาย XR ในวันที่ 16 สิงหาคม 2564 หรือภายในวันที่ 13 สิงหาคม 2564
ทั้งนี้ บ้านปูได้จัดสรรหุ้นเพิ่มทุนในอัตราส่วน 3 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นเพิ่มทุน หรือจำนวนไม่เกิน 1,691,527,171 หุ้น เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 5 บาท พร้อมรับสิทธิ์วอแรนต์ 2 รุ่นคือ BANPU-W4 (อายุ 1 ปี) ซึ่งจัดสรรจำนวนไม่เกิน 1,691,527,171 หน่วย และ BANPU-W5 (อายุ 2 ปี) จัดสรรจำนวนไม่เกิน 1,691,527,171 หน่วย ชนิดระบุชื่อผู้ถือและโอนเปลี่ยนมือได้ ในอัตราส่วน 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อ 1 หน่วยใบสําคัญแสดงสิทธิของแต่ละรุ่น โดยมีราคาใช้สิทธิในแต่ละรุ่นที่ 5 บาทต่อหุ้น และ 7.5 บาทต่อหุ้น
สำหรับการเพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัทฯ ดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับการเติบโตแบบก้าวกระโดดตามกลยุทธ์ Greener & Smarter เสริมขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยเพิ่มความแข็งแกร่งและสภาพคล่องทางการเงินของบริษัทในการขับเคลื่อนกระบวนการเปลี่ยนผ่าน (Banpu Transformation) ผ่านการลงทุนและพัฒนาโครงการต่างๆ โดยเน้นการลงทุนในสินทรัพย์พลังงานที่สะอาดขึ้น และสร้างกระแสเงินสดได้ทันที เช่น การลงทุนในกลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ที่มีแผนมุ่งสร้างประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมมองหาโอกาสต่อยอดการลงทุนจากแหล่งก๊าซไปยังธุรกิจกลางน้ำ และปลายน้ำ
อีกทั้งยังมุ่งเน้นการลงทุนเพิ่มเติมในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดแห่งใหม่ในประเทศที่มีศักยภาพการเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งยังเดินหน้าขยายธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานให้สอดคล้องกับเทรนด์ด้านพลังงานใหม่ๆ เพื่อเสริมสร้างระบบนิเวศบ้านปูให้ก้าวสู่ความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีพลังงานในอนาคต
"ปัจจุบันบ้านปูยังคงเดินหน้าเปลี่ยนผ่านองค์กร (Banpu Transformation) อย่างต่อเนื่องภายใต้กลยุทธ์ Greener & Smarter เพื่อให้สอดคล้องกับเทรนด์พลังงานแห่งโลกอนาคต และหลัก ESG บริษัทฯ จึงได้นำกระบวนการ Digital Transformation ซึ่งนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ควบคู่ไปกับการขยายพอร์ตฟอลิโอพลังงานสะอาด เพื่อขับเคลื่อนองค์กรให้ก้าวล้ำนำหน้าและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ทั้งยังนำความรู้และความเชี่ยวชาญจากทรัพยากรบุคคลในแต่ละประเทศ มาปรับใช้ในการต่อยอดเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินทรัพย์ต่างๆ และสร้างโอกาสการเติบโตธุรกิจใหม่ๆ ด้วยเป้าหมาย EBITDA จากธุรกิจพลังงานที่สะอาดขึ้นมากกว่า 50% และเป้าหมายกำลังการผลิตไฟฟ้า 6,100 เมกะวัตต์ ภายในปี 2568"