ธนาคารกรุงเทพ ประกาศเป็นพันธมิตรกับ Pictet Groupยกระดับบริหารเงินเศรษฐี
ธนาคารกรุงเทพรุกบริหารเงินคนรวย ประกาศร่วมเป็นพันธมิตร Pictetจากสวิสเซอร์แลนด์ ต่อยอดบริหารพอร์ตการลงทุนกลุ่มมั่งคั่งรักษาและส่งต่อลูกหลาน
ธนาคารกรุงเทพ จับมือ Pictet Group ผู้บริหารความมั่งคั่งและสินทรัพย์ชั้นนำระดับโลกจากเจนีวา สวิสเซอร์แลนด์ ประกาศความเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ เพื่อยกระดับบริการวางแผนการจัดการสินทรัพย์ (Wealth Management) สำหรับลูกค้าที่มีความมั่นคงทางการเงินสูงในประเทศไทย
นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารกรุงเทพได้ประกาศความเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ กับ Pictet Group ผู้มีความรู้และความเชี่ยวชาญ ด้านการบริหารความมั่งคั่ง สินทรัพย์ และการลงทุนชั้นนำระดับโลกจากเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เพื่อทำงานร่วมกันในการยกระดับโซลูชันการให้บริการวางแผนการจัดการสินทรัพย์ (Wealth Management)
สำหรับลูกค้าที่มีความมั่นคงทางการเงินสูงในประเทศไทยให้สามารถลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการวางแผนการจัดการสินทรัพย์ที่เน้นการคุ้มครองและเพิ่มพูนสินทรัพย์ของลูกค้าเพื่อส่งต่อความมั่งคั่งสู่ทายาทรุ่นต่อๆ ไป
“นับเป็นความร่วมมือของธนาคารกรุงเทพร่วมกับ Pictet Group ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และสร้างสรรค์บริการ รวมถึงการพัฒนาโซลูชันเพื่อตอบสนองความต้องการที่ซับซ้อนของลูกค้าที่มีความมั่นคงทางการเงินสูงของธนาคาร จะเป็นการช่วยต่อยอดการบริหารพอร์ตการลงทุนเดิมและเสริมสร้างกลยุทธ์ด้านการลงทุนของลูกค้าให้สามารถรักษาและส่งต่อความมั่งคั่งสู่รุ่นลูกรุ่นหลานต่อไป”
นายชาติศิริ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงปีที่ผ่านมา ธนาคารกรุงเทพกับ Pictet ได้เริ่มดำเนินโครงการที่สำคัญร่วมกันหลายโครงการ โดย Pictet ได้เข้าเป็นที่ปรึกษาด้านการลงทุนให้กับกองทุนเปิด BCAP Global Multi Asset Fund และกองทุนเปิด BCAP Global Multi Asset Plus ซึ่งเป็น 2 กองทุนใหม่เมื่อเดือนกันยายน 2564 ที่ออกแบบมาเพื่อลูกค้าธนาคารกรุงเทพโดยเฉพาะ ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บางกอกแคปปิตอล หรือ บีแคป บริษัทในเครือของธนาคารกรุงเทพ และในช่วงต้นปี Pictet Asset Management ได้เข้าบริหาร กองทุนเปิดบัวหลวงยั่งยืน หรือ Bualuang Sustainable Investing Portfolio (B-SIP) ที่ลงทุนในกองทุนเพื่อความยั่งยืน ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด หรือ บลจ. บัวหลวง อีกหนึ่งบริษัทในเครือของธนาคารกรุงเทพ และล่าสุดในสัปดาห์นี้ ทางบลจ. บัวหลวงจะมีการเปิดตัวกองทุนบัวหลวงยั่งยืนใหม่อีก 2 กองทุน ได้แก่ Bualuang Sustainable Investing Portfolio Super Savings Fund และ Bualuang Sustainable Investing Portfolio RMF
“ลูกค้าของธนาคารกรุงเทพจะได้รับประโยชน์จากประสบการณ์ด้านการบริหารความมั่งคั่งและสินทรัพย์ของ Pictet Group ซึ่งดำเนินกิจการมายาวนานกว่าสองศตวรรษ ด้วยมุมมองการลงทุนระยะยาวและการสร้างผลตอบแทนเหนือระดับ ประกอบกับความรู้ความเข้าใจถึงแนวโน้มของเศรษฐกิจมหภาค และเทคโนโลยีด้านแพลตฟอร์มที่ล้ำสมัย ตลอดจนการวางแผนจัดการสินทรัพย์ที่ให้ความสำคัญกับการบริหารความมั่งคั่งสำหรับครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเดือนมกราคม 2565 Mr. Claude Haberer หุ้นส่วนทุนและประธาน Pictet Wealth Management Asia ผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนอย่างสูงจะเกษียณอายุการทำงาน โดยได้ให้เกียรติเข้าร่วมงานกับธนาคารกรุงเทพในฐานะที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ นับเป็นการสานคุณค่าที่ทั้งสององค์กรมีร่วมกันเพื่อความมุ่งมั่นในการดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด ให้ได้รับความไว้วางใจและความเชื่อมั่น เพื่อการสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นในระยะยาวต่อไป” นายชาติศิริกล่าว
Mr. Renaud de Planta หุ้นส่วนผู้จัดการอาวุโสของ Pictet กล่าวว่า "Pictet พร้อมจับมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับธนาคารกรุงเทพ ซึ่งนอกจากจะเป็นการทำงานร่วมกันเพื่อนำความเชี่ยวชาญด้านการวางแผนการจัดการสินทรัพย์มาสู่ประเทศไทยแล้ว ยังเป็นการจับมือร่วมสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่งและยั่งยืน ด้วยประสบการณ์ในการให้บริการลูกค้าส่วนบุคคลในเอเชีย ภูมิภาคที่มีความสำคัญของ Pictet มายาวนานกว่า 30 ปี โดย Pictet จะนำความรู้ความเชี่ยวชาญจากการเป็นผู้นำด้านการลงทุนที่มีรากฐานมาจากการดำเนินงานที่มีอิสระ ผนวกกับประสบการณ์ในการสืบทอดกิจการตลอดสองศตวรรษที่ผ่านมา เพื่อนำเสนอการลงทุนที่มุ่งเน้นความต่อเนื่อง ความมั่นคง และความยั่งยืนแก่ลูกค้าของธนาคารกรุงเทพต่อไป
“Pictet Group ขอขอบคุณ Mr. Claude ที่ได้ทุ่มเททำงานอย่างเต็มความสามารถเพื่อสร้างเครือข่ายด้าน Wealth Management ในเอเชียตลอดทศวรรษที่ผ่านมา โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า Mr. Claude จะประสบความสำเร็จในการร่วมงานกับธนาคารกรุงเทพเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกันให้มีความแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น” Mr. Renaud de Planta กล่าว