"MGC-ASIA" ชู "มาร์เก็ตติ้ง ออโตเมชัน" รับลูกค้า 1.2 ล้านราย
MGC-ASIA เดินหน้าบุกธุรกิจค้าปลีกรถยนต์ พร้อมปรับตัวรับการก้าวสู่ยุค 5.0 ดึงระบบ "มาร์เก็ตติ้ง ออโตเมชัน" มาใช้กับกับฐานลูกค้าเดิม 5 แสนราย และลูกค้ามุ่งหวังอีกกว่า 7 แสนราย ช่วยวิเคราะห์แผนการตลาดและการสื่อสารให้มีประสิทธิภาพ มั่นใจ! รายได้ปี 2562 โต 15%
⇲ อาสา ปิยะรัฐ - สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ
ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด หรือ เอ็มจีซี-เอเชีย เปิดเผยว่า ในปี 2019 "เอ็มจีซี-เอเชีย" เดินหน้าเพิ่มศักยภาพด้านดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการก้าวสู่ยุคดิจิทัล 5.0 และการขยายเครือข่ายด้านการบริการ โดยยึดหลักการ "ลูกค้าเป็นหัวใจสำคัญ" ตามเป้าหมายวิสัยทัศน์ปี 2020 หรือ Vision 2020 เพื่อมุ่งสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจค้าปลีกรถยนต์ พร้อมบริการครบวงจรในประเทศไทยและอาเซียน
"หลายปีที่ผ่านมา ธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลง อันเนื่องมาจากเกิดผลกระทบ Digital Disruption ดังนั้น บริษัทจึงตระหนักและเตรียมความพร้อมให้กับทุกหน่วยธุรกิจในเครือ เพื่อรองรับ Digital Transformation ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ โดยมีการนำระบบ "มาร์เก็ตติ้ง ออโตเมชัน" มาใช้กับกับฐานลูกค้าของเรากว่า 500,000 ราย รวมถึงลูกค้าผู้มุ่งหวังกว่า 700,000 ราย เพื่อวิเคราะห์และยกระดับการสื่อสาร พร้อมสร้างประสบการณ์กับกลุ่มลูกค้าเหล่านี้ การพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อสร้างบริการแบบใหม่ที่ง่ายและสะดวก เช่น การทำแอพพลิเคชันสำหรับรถเช่า ซิกท์ ช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า รวมถึงการริเริ่มทำดิจิทัลโชว์รูมของ ZUPERCAR เพื่อรองรับกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในปัจจุบัน"
นอกจากนี้ ยังยกระดับการบริการที่รวดเร็วและแม่นยำ ด้วย "1286 MILLENNIUM AUTO CONNECT" ซึ่งเป็นช่องทางเชื่อมต่อยุคดิจิทัลครบวงจรสำหรับลูกค้า "มิลเลนเนียม ออโต้" และในปีนี้จะมีการแนะนำ "1334 HONDA SUMMIT CONNECT" สำหรับลูกค้า "ซัมมิท ฮอนด้า" เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารกับลูกค้า ทั้งการสอบถามข้อมูลรถใหม่ การนัดเข้ารับบริการ เข้าร่วมกิจกรรมพิเศษ หรือ การรับข่าวสารจากบริษัทฯ ก็สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขณะที่ แผนงานด้านเครือข่ายได้ขยายเครือข่ายสู่ฝั่งธนบุรี ด้วยการเปิดโชว์รูมมาตรฐานแห่งใหม่พร้อมกัน 6 แบรนด์ ที่ไอคอนสยาม แลนด์มาร์กแห่งใหม่ฝั่งธนบุรี ประกอบด้วย โรลส์-รอยซ์, มาเซราติ, อะซิมุท, บีเอ็มดับเบิลยู, มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด เพื่อรองรับกระแสการเติบโตของ HNWI (High Net Worth Individual) ในประเทศที่มีอัตราการเติบโตสูงเป็นอันดับต้นในเอเชีย
ด้าน "ธุรกิจรถเช่า" ภายใต้ "มาสเตอร์ คาร์เร้นเทิล" และแบรนด์ 'ซิกท์' (SIXT) ได้ขยายเครือข่ายสาขาสู่ภูมิภาคอาเซียน โดยล่าสุด ได้เปิดตัวไปแล้วกับ 'ซิกท์' สาขาหลวงพระบาง ซึ่งถือว่าเป็นสาขาที่ 20 ของ SIXT ในอาเซียน โดยปัจจุบันมี 12 สาขาทั่วประเทศไทย 6 สาขาที่ประเทศมาเลเซีย และ 2 สาขาที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
ดร.สัณหวุฒิ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับนโยบายของกลุ่มในปี 2562 ได้ขยายแผนการลงทุน ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ พร้อมเตรียมงบลงทุนเบื้องต้นกว่า 250 ล้านบาท โดย "มิลเลนเนียม ออโต้ กรุ๊ป ลาดพร้าว" มีการขยายโชว์รูมและศูนย์บริการสำหรับ "บีเอ็มดับเบิลยู พรีเมียมซีเล็กชั่น" และ "บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด" รวมถึงการขยายศูนย์บริการรูปแบบใหม่ "บีเอ็มดับเบิลยู เซอร์วิส แฟคตอรี่ เอาท์เล็ต" (SFO) ที่พระราม 4 และจะเปิด "บีเอ็มดับเบิลยู เซอร์วิส เอาท์เล็ต โอนลี่" (SOO) ที่สุราษฎร์ธานี ขณะที่ "เอ็มเอ็มเอส บ็อชคาร์เซอร์วิส" ปัจจุบันมี 15 สาขา โดยปีที่ผ่านมา ได้เปิดสาขาเพิ่มที่รังสิตและเพชรเกษม และมีโครงการขยายเพิ่มอีก 8 สาขาในปีนี้
โดยสรุป บริษัทฯ คาดว่า ธุรกิจของกลุ่มในปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10-15% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยกลุ่มรถยนต์ใหม่ตั้งเป้าจำหน่ายกว่า 13,000 คัน ธุรกิจศูนย์บริการหลังการขายตั้งเป้าการบริการไว้กว่า 235,000 คัน โดยมีปัจจัยสนับสนุนด้านต่าง ๆ ตามที่ระบุไว้ในแต่ละกลุ่มและประเภทธุรกิจ
