พ่อ-แม่ดูแลฉัน ผลวิจัยชี้“คาร์ซีท”ช่วยชีวิตเด็กได้80%

27 ส.ค. 2562 | 03:25 น.

ความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับผู้โดยสารที่เป็นเด็ก กำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลงเมื่อรัฐบาลของแต่ละประเทศในอาเซียนกำลังพิจารณาออกกฏหมายบังคับใช้อุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยสำหรับเด็ก ล่าสุดรัฐบาลฟิลิปปินส์ได้อนุมัติกฏหมายให้เด็กอายุไม่เกิน 12 ปีใช้อุปกรณ์ดังกล่าวตลอดเวลาที่อยู่บนรถ รวมถึงห้ามไม่ให้เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี หรือเด็กที่มีความสูงต่ำกว่า 150 เซนติเมตร นั่งบนเบาะข้างคนขับโดยเด็ดขาด

-เรื่องคาดไม่ถึง

ขณะที่เมืองไทยมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นลำดับต้นๆของโลก หลายปีที่ผ่านมารัฐบาลพยายามใช้หลายมาตรการในการแก้ปัญหานี้ เช่น การบังคับให้ผู้ขี่รถมอเตอร์ไซค์และผู้โดยสารสวมหมวกกันน็อคเพื่อป้องกันอันตรายในขณะขับขี่ ในขณะที่หลายครอบครัวหันมาใช้รถยนต์มากขึ้น ดังนั้นการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับความปลอดภัยในการเดินทางสำหรับเด็กจึงเป็นเรื่องสำคัญ

จากผลสำรวจระบุว่า เบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็กช่วยลดการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ถึง 70% ในทารก และกว่า 50 ถึง 80% ในเด็กเล็ก  อย่างไรก็ตามอุปกรณ์ดังกล่าวต้องได้รับการติดตั้งอย่างถูกต้องและเหมาะสมกับรูปแบบของรถ จึงจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้แก่เด็กอย่างมีประสิทธิภาพ

พ่อ แม่ สามารถขอให้ผู้จำหน่ายช่วยติดตั้งเบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็กให้ หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการติดตั้งเบาะนั่งนิรภัยให้ถูกวิธี  เพราะจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทั่วโลกหลายครั้งพบว่ามีการติดตั้งเบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็กไม่ถูกต้อง แม้กระทั่งในประเทศที่มีความตื่นตัวเกี่ยวกับความปลอดภัยบนท้องถนนของเด็กและเยาวชนสูง อย่างสหรัฐอเมริกา ซึ่งพบว่ากว่า 95% ของเบาะนั่งนิรภัยมีการติดตั้งไม่ถูกต้องอย่างน้อย 1 ตำแหน่ง

พ่อ-แม่ดูแลฉัน ผลวิจัยชี้“คาร์ซีท”ช่วยชีวิตเด็กได้80%

-หันหน้า หรือ หันหลัง?

เบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็กแบบหันหลังเป็นอุปกรณ์ที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับทารกและเด็กเล็ก ฟอร์ดแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ใช้เบาะนั่งนิรภัยประเภทนี้จนเด็กมีส่วนสูงและน้ำหนักเกินมาตรฐานที่บริษัทผู้ผลิตกำหนดก่อนจะได้เวลาเปลี่ยนไปใช้เบาะนั่งนิรภัยแบบหันหน้า ปัจจุบัน ในท้องตลาดมีเบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็กที่สามารถปรับทิศทางการหันของเบาะได้ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกและช่วยประหยัดเงินให้คุณพ่อคุณแม่ได้อีกทาง

อย่างไรก็ตาม เด็กไม่ควรนั่งเบาะหน้าโดยเด็ดขาด แม้จะนั่งรัดเข็มขัดอยู่บนเบาะนั่งนิรภัยแล้วก็ตาม เพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ถุงลมนิรภัยอาจกระแทกใบหน้าเด็ก หรือกระแทกศีรษะหากนั่งแบบหันหลัง ซึ่งอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บร้ายแรง

นอกจากนี้ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าปรับเอนเบาะนั่งนิรภัยอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันไม่ให้ศีรษะของเด็กโน้มเอนไปข้างหน้า โดยเฉพาะในกรณีของเด็กทารก ศีรษะควรเอนไปเพียงข้างหน้าเล็กน้อยเพื่อให้หายใจสะดวกคุณพ่อคุณแม่อย่าลืมปรับเบาะอยู่เป็นระยะให้รองรับสรีระของลูกน้อยเมื่อโตขึ้น

เมื่อเด็กโตเกินเบาะนั่งนิรภัยแล้ว จำเป็นจะต้องนำเบาะเสริม หรือบูสเตอร์มาใช้แทน เพราะถึงเวลานั้นเด็กอาจยังไม่สูงหรือหนักพอสำหรับการใช้เข็มขัดนิรภัยที่มากับรถยนต์ ซึ่งเหมาะกับเด็กที่มีความสูง 150 เซนติเมตรขึ้นไป จึงจะรัดเข็มขัดด้านล่างให้แนบไปกับสะโพกและเชิงกรานและให้เข็มขัดด้านบนอยู่ระหว่างอกกับไหล่ได้พอดี

พ่อ-แม่ดูแลฉัน ผลวิจัยชี้“คาร์ซีท”ช่วยชีวิตเด็กได้80%

-เรื่องเล็กที่ไม่ควรเสี่ยง

เบาะนั่งนิรภัยมีวันเสื่อมอายุ จึงต้องหมั่นตรวจเช็คคู่มืออยู่เสมอ คุณพ่อคุณแม่ต้องเปลี่ยนเบาะนั่งนิรภัยหากเกิดอุบัติเหตุแม้ว่าดูสภาพของเบาะยังดูเหมือนเดิมเพราะระบบภายในอาจมีรอยแตกหักซึ่งจะส่งผลให้เกิดอันตรายต่อลูกน้อยได้ ในทำนองเดียวกัน คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรใช้เบาะนั่งนิรภัยตัวเดิมกับลูกคนที่ 2 หรือซื้อเบาะนั่งนิรภัยมือสองมาใช้ หากไม่ทราบที่มาที่ไป

ที่มา : ฟอร์ด ประเทศไทย