ปอร์เช่ เอจี ประเทศเยอรมนี เปิดเผยว่าจะทุ่มงบประมาณกว่า 15 พันล้านยูโร หรือ ประมาณ 5.55 แสนล้านบาท ในระยะเวลา 5 ปีต่อจากนี้โดยมุ่งเน้นที่การพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์แห่งอนาคต โดยนาย Lutz Meschke รองประธานและสมาชิกคณะกรรมการบริหารผู้รับผิดชอบดูแลส่วนงานการเงินและเทคโนโลยีสารสนเทศของPorsche AG กล่าวว่า เมื่อพิจารณาถึงการลงทุนในแง่มุมของยานพาหนะพลังงานไฟฟ้าและเทคโนโลยีดิจิทัล ปอร์เช่ยังคงมีการพัฒนาที่ก้าวกระโดด
พร้อมกันนั้นปอร์เช่ยังคงไล่ตามเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ ในส่วนของผลตอบแทนจากการขาย เพื่อให้ปอร์เช่สามารถดำเนินกิจการได้โดยสวัสดิภาพในระยะยาว
นาย Oliver Blume ประธานกรรมการบริหาร Porsche AG กล่าวว่า สถานการณ์ปัจจุบันเต็มไปด้วยความท้าทายอย่างสูงโดยบริษัทฯกำลังบริหารจัดการองค์กรท่ามกลางวิกฤติไวรัสโคโรน่าอย่างเป็นระบบและเต็มไปด้วยความรับผิดชอบ ขณะเดียวกันยังคงต้องเสาะแสวงหาโอกาสต่างๆยกตัวอย่าง การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ยานยนต์รุ่นใหม่ที่น่าสนใจ นับตั้งแต่ปอร์เช่ 911 เทอร์โบ (Porsche 911 Turbo) จนถึงปอร์เช่ ไทคานน์ (Porsche Taycan) รถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าสมบูรณ์แบบซึ่งได้รับการเลือกให้เป็นที่สุดของรถยนต์ที่เต็มไปด้วยนวัตกรรม ล้ำสมัยอันดับ 1 ของโลกเมื่อไม่นานมานี้
ขณะที่ผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกของปอร์เช่สามารถบรรลุเป้าหมายจากการขายที่ 9.9 % โดยรายได้จากการขายทำได้ที่ 1.24 หมื่นล้านยูโร (ประมาณ 458,000 ล้านบาท) หรือลดลง 7.3 % เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว ในส่วนของผลกำไรจากการขายนั้นมีตัวเลขที่ 1.23 พันล้านยูโร (ประมาณ 45,000 ล้านบาท) ลดลง 26.3 % เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา
ด้านตัวเลขยอดส่งมอบรถยนต์ใหม่ทั่วโลกในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2020 ปรับลดลง 12.4% เหรือ 116,964 คัน ในภาพรวมถึงแม้ว่าศูนย์บริการ Porsche Centres หลายแห่งจำเป็นต้องหยุดดำเนินงานชั่วคราวเป็นระยะเวลา หลายสัปดาห์ก็ตาม แต่ ปอร์เช่ ไทคานน์ ใหม่ (The new Porsche Taycan) ยังคงมียอดส่งมอบกว่า 4,480 คัน
ในส่วนของปอร์เช่ 911 รถสปอร์ตระดับตำนานกลับมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 2.2 % หรือคิดเป็นยอดจำหน่าย 16,919 คัน ทางด้านปอร์เช่ คาเยนน์ (Porsche Cayenne) คือรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดด้วยยอดส่งมอบรวมทั่วโลกกว่า 39,245 คัน ตามติดด้วยปอร์เช่ มาคันน์ (Porsche Macan) ที่สามารถส่งมอบถึงมือลูกค้าถึง 34,430 คัน
ขณะที่ประเทศจีนยังคงเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่สุดด้วยยอดจำหน่ายในครึ่งแรกของปีที่ 39,603 คัน ในส่วนทวีปยุโรปมีตัวเลขส่งมอบที่ 32,312 และประเทศสหรัฐอเมริกาที่ 24,186 คัน ในระหว่างเดือนมกราคมถึงมิถุนายน
“วิกฤติไวรัสโคโรน่าทิ้งร่อยรอยความเสียหายเอาไว้กับปอร์เช่ไม่น้อยในทวีปยุโรปและสหรัฐอเมริกาเราได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการหดตัวของเศรษฐกิจในช่วงครึ่งแรกของปี ส่วนที่จีน และตลาดอื่นๆในภูมิภาคเอเชีย อย่างเช่น เกาหลีและญี่ปุ่นหลายสิ่งหลายอย่างเริ่มฟื้นคืนกลับมาได้อีกครั้งในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามยังคงเร็วเกินไปที่จะคาดการณ์ถึงช่วงเวลาที่เหลือของปีว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป ” นาย Meschke กล่าว
นาย Meschke กล่าวเพิ่มเติมว่า ปีนี้คือปีแห่งไวรัสโคโรน่า ทำให้ปอร์เช่จำเป็นต้องปรับลดเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ในส่วนของผลตอบแทนจากการขายที่ 15 % ลง แต่ทั้งนี้บริษัทจะพยายามลงมือทุกวิถีทางที่ทำได้เพื่อให้ยังคงบรรลุเป้าหมายอัตราผลตอบแทนจากการขายด้วยตัวเลข 2 หลักในนี้