BMW ผงาดแชมป์รถหรูในรอบ 20 ปี ประเดิมชัยศักราชใหม่อัดโปรโมชั่นแรง

27 ม.ค. 2564 | 04:55 น.
อัปเดตล่าสุด :28 ม.ค. 2564 | 04:46 น.

ค่ายรถหรูเร่งเครื่องยนต์กระตุ้นยอดขายตั้งแต่ต้นปี บีเอ็มดับเบิลยู ได้ใจหลังครองแชมป์ปี 2563 เดินหน้าอัดโปรโมชั่นโหดต่อเนื่อง BMW X1 จัดส่วนลดของแถมร่วม 3 แสนบาท หรือ ซีรีส์ 2 แกรนด์ คูเป้ ลดได้ 2 แสนบาท ด้าน Audi Q3 โหนกระแสช่วยผ่อนคนละครึ่ง 12 เดือนมูลค่า 1.54 แสนบาท ส่วนเมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัวเอสยูวีฟูลไซส์ GLS รุ่นประกอบในประเทศ ราคาถูกลง 2.36 ล้านบาท

สรุปยอดขายปี 2563 บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ไล่ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ไม่ทัน ด้วยตัวเลข 10,613 คัน และ 12,426 คัน ตามลำดับ

สำหรับ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยอดขายปี 2563 ลดลง 4.1% เมื่อเทียบกับปี 2562 โดยเป็นยอดที่รวม 2 แบรนด์ คือ บีเอ็ม ดับเบิลยู และ มินิ (1,184 คัน) ด้านเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ลดลง 29.7% ส่วนหนึ่งเพราะสภาพแวดล้อมการทำธุรกิจในวิกฤติโควิด-19 และการปรับแผนทำตลาดรถระดับ Entry Level คอมแพ็กต์คาร์ขับเคลื่อนล้อหน้า

ขณะที่ บีเอ็มดับเบิลยู ตลอดปี 2563 เดินหน้ากระตุ้นยอดขายผ่านแคมเปญแรง จัดอีเวนต์ทั้ง สเกลเล็ก สเกลใหญ่ ส่งเสริมให้ดีลเลอร์เดินหน้าลุยแบบไม่ยอมหายใจ พร้อมส่วนลดในแต่ละรุ่นเป็นหลักแสน โดยลูกค้าเลือกแพกเกจทางการเงินได้ตามสะดวก ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดเงินสด ซับเงินดาวน์ หรือดอกเบี้ยต่ำ/สูง ผ่อนนาน ประกันภัยชั้นหนึ่ง ตลอดจนใช้โปรแกรม BSI เป็นออพชันเสริม

ปฎิเสธไม่ได้ว่า การทำตลาดเชิงรุก พร้อมอัดเงินส่งเสริมการขายมีส่วนสำคัญที่ผลักดันให้ บีเอ็มดับเบิลยู คว้าแชมป์ตลาดรถหรูปี 2563 แทน เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ที่ครองตำแหน่งนี้มายาวนาน 19 ปีซ้อน

“ปี 2563 เป็นปีที่เราต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งประวัติศาสตร์ แต่เราก็สร้างความสำเร็จครั้งสำคัญที่สุดและก้าวสู่การเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดรถพรีเมียมของไทย แม้ตลาดรถยนต์โดยรวมจะหดตัว แต่เราได้สร้างผลงานที่เหนือกว่าตลาดในเซกเมนต์พรีเมียม พร้อมครองส่วนแบ่งตลาด 51.2% ซึ่งเป็นผลจากการนำเสนอทางเลือกระบบขับเคลื่อนที่หลากหลาย บริการหลังการขายที่ยืดหยุ่น และการปรับตัวด้านดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วของผู้บริโภค นายอเล็กซานเดอร์ บารากา ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวสรุป

ทั้งนี้ ต้นปี 2564 ค่ายใบพัดสีฟ้ายังต่อเวลาแคมเปญต่างๆ ที่ใช้ในปีที่แล้ว โดยแต่ละรุ่นมีมูลค่าส่วนลดเป็นแพกเกจรวมหลายแสนบาท เช่น BMW X1 ที่เพิ่งไมเนอร์เชนจ์ (LCI) ปีที่แล้ว ในรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล X1 sDrive 20d xLine ราคา 2.349 ล้านบาท ได้แพกเกจสนับสนุนทางการเงินเกือบ 3 แสนบาท (รวมประกันภัยชั้น 1)

ส่วน ซีรีส์ 2 แกรนด์ คูเป้ รุ่นประกอบในประเทศเปิดตัวปลายปีที่แล้ว 220i Grand Coupe M Sport ราคาตั้ง 2.479 ล้านบาท มีส่วนลดถึง 2 แสนบาท ขณะที่รุ่นยอดนิยมอย่าง ซีรีส์3 (G20) ได้ส่วนลด 2.3-2.5 แสนบาท รวมถึง X3 รับส่วนลดระดับ 4 แสนบาท

BMW ผงาดแชมป์รถหรูในรอบ 20 ปี ประเดิมชัยศักราชใหม่อัดโปรโมชั่นแรง

ส่วนโปรดักต์ใหม่ บีเอ็มดับเบิลยู ประเดิมต้นปีด้วย ซีรีส์ 5 (G30) ไมเนอร์เชนจ์ รุ่นประกอบในประเทศ ทั้งขุมพลังปลั๊ก-อินไฮบริด BMW 530e Elite 2.999 ล้านบาท ราคาเท่าเดิม BMW 530e M Sport 3.739 ล้านบาท ราคาลดลง 2 แสนบาท และรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล BMW 520d M Sport 3.539 ล้านบาท ราคาเท่าเดิม

ด้านเมอร์เซเดส-เบนซ์ ไม่ยอมน้อยหน้า ด้วยการเพิ่มไลน์อัพรุ่นประกอบในประเทศ กับเอสยูวีรุ่นใหญ่ Mercedes-Benz GLS 350 d 4MATIC AMG Premium พร้อมทำราคาขาย 6.499 บาท ถูกกว่าตัวนำเข้า(เปิดตัวปลายปี 2562) ถึง 2.36 ล้านบาท แต่ยังคงฟีเจอร์เด่นๆ เทคโนโลยียานยนต์ระดับโลกไว้ครบครัน

นายโรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปี 2564 บริษัทตอกยํ้าความมุ่งมั่นที่มีต่อตลาดรถยนต์พรีเมียมในประเทศไทย โดยเฉพาะเซกเมนต์เอสยูวีที่มีความต้องการของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดตัว Mercedes-Benz GLS 350 d 4MATIC AMG Premium รุ่นประกอบในประเทศอย่างเป็นทางการ

“นอกจากตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคแล้ว ยังเป็นการสนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ในประเทศไทย ด้วยการนำเสนอ Large Full-Size SUV แบบ 7 ที่นั่งรุ่นประกอบในประเทศ ให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกใหม่ ที่หรูหราเหนือระดับเช่นเดียวกับตระกูล เอส-คลาส พร้อมด้วยระบบความปลอดภัยขั้นสูง ในราคาที่เข้าถึงได้มากขึ้น”นายโฟล์เกอร์ กล่าวสรุป

สำหรับปี 2564 เมอร์เซเดส-เบนซ์ หมายมั่นปั้นมือกลับมาทวงบัลลังก์แชมป์รถหรูเมืองไทยอีกครั้ง ด้วยรถกลุ่มคอมแพ็กต์ประกอบในประเทศ ทั้ง เอ-คลาส ซีดาน และ จีแอลเอ โดยรุ่นแรกเปิดราคาเร้าใจ 1.99 ล้านบาท ยังมาพร้อมโปรโมชันดาวน์ 149,000 บาท หรือเลือกรับดอกเบี้ย 0.99%

อีกหนึ่งค่ายเยอรมนี “อาวดี้” ที่ปี 2563 ขายได้ประมาณ 1,000 คัน โต 12 % เมื่อเทียบกับปี 2562 ซึ่งปีนี้ประกาศเปิดตัวรถใหม่อีกกว่า 10 รุ่น พร้อมจัดแคมเปญโหนกระแสคนละครึ่ง ด้วยการช่วยลูกค้าผ่อนค่างวด 50% เป็นระยะเวลา 12 เดือน เช่น Audi Q3 S line ช่วยผ่อน 12,100 บาทต่อเดือน รวมมูลค่า 145,000 บาท หรือเลือกผ่อนดอกเบี้ย 0% 5 ปี จ่ายเดือนละ 24,990 บาท

Audi A6 40 TFSI ช่วยผ่อน 16,450 บาทต่อเดือน รวมมูลค่า 197,400 บาท Audi Q8 ช่วยผ่อน 32,950 บาทต่อเดือน รวมมูลค่า 395,400 บาท หรือเลือกผ่อนดอกเบี้ย 0% 7 ปี จ่ายเดือนละ 65,900 บาท

ด้านวอลโว่ ที่ปรับพอร์ตการขายเป็นรถขุมพลังปลั๊ก-อินไฮบริด ทุกรุ่น โดยปีที่แล้วทำยอดขายได้ 1,824 คัน ลดลง 13.1% ปีนี้ทีเด็ดยังอยู่ที่ Volvo XC40 Recharge และ Volvo S60 ล่าสุดเปิดตัว 3 ดีลเลอร์ใหม่ให้เข้ามาช่วยขาย คือ พระนคร สวีดิช คาร์ ลาดพร้าว, นิวตัน เพรสทีจ ออโต ถนนบรมราชชนนี และ 14 ออโต้มาร์ค จำกัด ถนนพระราม 2 

 

หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,648 วันที่ 28 - 30 มกราคม พ.ศ. 2564