เฟอร์รารี่ ปรับตัวตามโลก เพราะจะให้ตะบี้ตะบันแรงกับขุมพลัง วี8 หรือวี12 อย่างเดียวก็คงไม่ไหว เพราะต้องคำนึงถึงกฎหมายควบคุมการปล่อยไอเสียที่เข้มงวดขึ้นเรื่อยๆของ ยุโรป และทั่วโลก ดังนั้นเราจึงเห็นการทำตลาดซูเปอร์คาร์ ปลั๊ก-อินไฮบริด อย่าง SF90 Stradale/Spider (แต่ก็แรงระดับ 1,000 แรงม้า) ล่าสุดกับสปอร์ตคาร์ขนาดกลาง Ferrari 296 GTB รถคูเป้หลังคาแข็งที่มาพร้อมเครื่องยนต์ วี6 ปลั๊ก-อินไฮบริด ซึ่งจะเข้ามาทำตลาดแทน Ferrari F8 Tributo ที่ใช้เครื่องยนต์ วี8
ในส่วนชื่อ GTB ไม่มีความประหลาดใจเพราะมาจาก Gran Turismo Berlinetta แสดงเผ่าพันธุ์ของรถ แต่ 296 ก็มีความหมายคือ 29 คือความจุกระบอกสูบ 2.9 ลิตร (2,992 ซีซี) และ 6 คือ บล็อก วี 6 สูบ
Ferrari 296 GTB ใช้เครื่องยนต์ วี6 ใหม่ มีนํ้าหนักน้อยกว่าแบบ วี8 ที่ใช้ในรถ Berlinetta รุ่นก่อนหน้าถึง 30 กิโลกรัม และการใช้วัสดุนํ้าหนักเบากับชิ้นส่วนอื่นๆ ผลที่ได้คือนํ้าหนักรถเปล่า 1,470 กิโลกรัม มีอัตราส่วนนํ้าหนักต่อแรงม้าที่ 1.77 กิโล กรัม/แรงม้า
ถ้าไม่นับรถแข่ง นี่คือเฟอร์รารี่ ที่ทำตลาดในเชิงพาณิชย์รุ่นแรกที่มากับเครื่องยนต์ วี6 พร้อมออกแบบให้ทำมุม 120 องศา ขนาด 2.9 ลิตร เทอร์โบ 663 แรงม้า ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 167 แรงม้า แบตเตอรี่ความจุ 7.45 กิโลวัตต์ชั่วโมงช่วยให้ในโหมด EV ที่เครื่องยนต์ไม่ติดขึ้นมาเลย รถสามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 25 กม. ส่วนความเร็วในโหมดนี้ทำได้ 134 กม./ชม.
Ferrari 296 GTB วางเครื่องยนต์ วี6 เทอร์โบ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ติดตั้งไว้ด้านหลังให้กำลังสูงสุด 830 แรงม้า ส่งกำลังสู่ล้อหลังด้วยเกียร์ DCT 8 สปีดชุดเดียวกับที่ใช้ใน SF90 Stradale, Roma, Portofino M และ SF90 Spider ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 2.9 วินาที อัตราเร่ง 0-200 กม./ ชม. 7.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 330 กม./ชม.
สปอร์ตคาร์เครื่องยนต์ (และมอเตอร์) วางกลางลำ พร้อมระบบแอโรไดนามิกส์ ที่เปลี่ยนมาเป็นแบบแอคทีฟที่ส่วนหน้าของรถ สำหรับใน Ferrari 296 GTB เป็นครั้งแรกที่ชิ้นส่วนแบบแอคทีฟไม่ได้ถูกใช้เพื่อจัดการกับแรงต้าน แต่เพื่อการเพิ่มดาวน์ฟอร์ซให้มากขึ้น สปอยเลอร์แบบแอคทีฟที่รับแรงบันดาลใจมาจาก LaFerrari รวมเข้ากับกันชนหลังส่งให้รถสร้างดาวน์ฟอร์ซด้านหลังได้ในระดับสูง
การพัฒนาการด้านอากาศพลศาสตร์ ทำให้แม้ในขณะที่มีแรงต้านตํ่า รถยังสร้างดาวน์ฟอร์ซได้สูงกว่าชุดแอโรก่อนหน้านี้ และที่ดาวน์ฟอร์ซสูงสุด สปอยเลอร์แบบแอคทีฟจะสร้างแรงกดเพิ่มขึ้นถึง 100 กก.
Ferrari 296 GTB มีระยะฐานล้อสั้นกว่าเฟอร์รารี่แบบ Berlinetta เครื่องวางกลางลำด้านหลัง 50 มม. เพื่อให้รถมีความคล่องตัวยิ่งขึ้น และเพิ่มการบังคับควบคุมและสมรรถนะของรถยังรวมไปถึงระบบ Brake-by-wire, คาลิเปอร์เบรกแบบ ‘แอโร’, พวงมาลัยไฟฟ้า, ชุดแอโรท้ายรถแบบแอคทีฟ และแดมเปอร์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า SCM-Frs
สำหรับโหมดการขับขี่จากตัวจัดการแหล่งพลังงาน eManettino มี 4 แบบ ดังนี้
สำหรับ Ferrari 296 GTB ราคาเริ่มต้นในยุโรป 2.69 แสนยูโร (ประมาณ 10.49 ล้านบาท) จะเริ่มส่งมอบได้ตั้งแต่ไตรมาสแรกปี 2565
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,693 หน้า 18 วันที่ 4 - 7 กรกฎาคม 2564