อาวดี้ ปอร์เช่ ขึ้นราคาหลักแสน รถนำเข้าต้นทุนพุ่ง ค่าบาทอ่อน

14 ต.ค. 2564 | 02:40 น.
อัปเดตล่าสุด :18 ต.ค. 2564 | 11:09 น.

เกรย์มาร์เก็ตรับค่าเงินบาทอ่อน จนต้องขึ้นราคาขายรถนำเข้ามาจากญี่ปุ่นและยุโรปคันละ 5 หมื่น - 3 แสนบาท ส่วนอาวดี้ ประเทศไทย ขยับราคาขึ้นหลักแสนบาทในรถล็อตใหม่ที่จะส่งมอบปี 2565 ด้าน ปอร์เช่ ไทคานน์ โดยเอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส ปรับราคาเช่นกัน

จากต้นทุนวัตถุดิบเพื่อการผลิตรถยนต์สูงขึ้น ชิ้นส่วนขาดแคลน และสถานการณ์โควิด-19 ที่กระทบต่อการทำงานของโรงงานผลิตรถยนต์ทั่วโลก ขณะเดียวกันค่าเงินบาทยังอ่อนปวกเปียกระดับ 33-34 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 39 บาทต่อยูโร (อัตราแลกเปลี่ยนในเดือนตุลาคม 2564) รวมถึงค่าระวางสินค้าทางเรือเพิ่มขึ้นเท่าตัว ส่งผลให้รถยนต์นำเข้ามีราคาสูงขึ้น

 

ขณะที่ เมอร์เซเดส-เบนซ์และบีเอ็มดับเบิลยูในไทย ตัวขายหลักเป็นรถรุ่นประกอบในประเทศ และมีกำไรต่อคันสูง ยังไม่มีความจำเป็นต้องปรับราคาแต่แบรนด์ยุโรป เช่น อาวดี้ ปอร์เช่ ที่นำเข้ามาขายในไทย 100% ทุกรุ่น ไม่สามารถหลีกเลี่ยงสถานการณ์นี้ได้

 

สำหรับ อาวดี้ โดยไมซ์ สเตอร์ เทคนิค เตรียมขยับราคาสำหรับรถยนต์ล็อตใหม่ที่เตรียมส่งมอบตั้งแต่ 1 มกราคม 2565 เป็นต้นไป กล่าวคือ รถในสต๊อกปีนี้ยังราคาเดิม แต่ถ้าจองและรถเป็นโมเดลของปี 2022 จะปรับราคาใหม่หลายรุ่น

อาวดี้ ปอร์เช่ ขึ้นราคาหลักแสน รถนำเข้าต้นทุนพุ่ง ค่าบาทอ่อน

อาวดี้ ปอร์เช่ ขึ้นราคาหลักแสน รถนำเข้าต้นทุนพุ่ง ค่าบาทอ่อน

 

ยกตัวอย่างในกลุ่ม EV Audi e-tron GT Quattro ปัจจุบันราคา 6,390,000 บาท ในปี 2022 จะเพิ่มเป็น 6,599,000 บาท Audi e-tron Sportback 55 Quattro S line 5,299,000 บาท ราคาใหม่ 5,499,000 บาท

 

กลุ่มรถเครื่องยนต์เบนซิน Audi A4 40 TFSI จาก 2,499,000 บาท เพิ่มเป็น 2,599,000 บาท และ Audi Q3 35 TFSI S line ปัจจุบัน 2,499,000 บาท ขยับเป็น 2,550,000 บาท

 

ส่วนตัวแรงตระกูล RS เช่น Audi RS Q3 Sportback ราคา 4,750,000 บาท เป็น 4,850,000 บาท Audi TT RS Coupe 5,299,000 บาท เป็น 5,399,000 บาท รวมถึง Audi RS 5 Coupe จาก 5,990,000 บาท ราคาใหม่ 6,099,000 บาท

 

โดยรถอาวดี้ตระกูล RS โควต้านำเข้าในปีนี้ถูกจองครบแล้ว (ทยอยส่งมอบอีกหลายสิบคัน) ดังนั้นใครที่เพิ่งตัดสินใจซื้อจะได้รับราคาใหม่ที่ประกาศไป และส่งมอบในปี 2565

ขณะที่ปอร์เช่ โดย เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส ยอดขายในปีนี้เติบโตต่อเนื่อง โดย 8 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ส.ค. 64) ทำ ได้ 999 คัน เพิ่มขึ้น 134% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งการมาของรถพลังงานไฟฟ้า 100% Porsche Taycan มีส่วนผลักดันยอดขาย และทำให้ได้ฐานลูกค้าใหม่ๆ ที่ไม่เคยใช้ปอร์เช่มาก่อน

 

อย่างไรก็ตาม Porsche Taycan ขยับราคาขึ้นเช่นกัน โดยรุ่นเริ่มต้น ขับเคลื่อนล้อหลังมอเตอร์ตัวเดียว จากราคา 6,190,000 บาท เป็น 6,300,000 บาท ส่วน Porsche Taycan 4S (มอเตอร์สองตัว) จาก 7,100,000 บาท เป็น 7,390,000 บาท

อาวดี้ ปอร์เช่ ขึ้นราคาหลักแสน รถนำเข้าต้นทุนพุ่ง ค่าบาทอ่อน

ล่าสุดเอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส ยังเปิดตัว Porsche Taycan Cross Turismo เวอร์ชันตัวถังอเนกประสงค์โดยรุ่นเริ่มต้นกำลัง 476 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 5.1 วินาที ความเร็วสูงสุด 220 กม./ชม. ชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้งวิ่งได้ระยะทาง 389-456 กิโลเมตร ขายในราคา 6.79 ล้านบาท

 

นายปีเตอร์ โรห์เวอร์ กรรมการผู้จัดการ ปอร์เช่ ประเทศไทย กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปี 2564 จนถึงปัจจุบัน บริษัทเริ่มส่งมอบไทคานน์ให้แก่ลูกค้าไปแล้วประมาณ 300 คัน ซึ่ง 71% ของลูกค้าที่ซื้อไทคานน์เป็นลูกค้ารายใหม่ของแบรนด์

 

“สำหรับ Taycan Cross Turismo จะเข้ามาเสริมทัพให้แก่รถพลังงานไฟฟ้าคันแรกของปอร์เช่ ในเวอร์ชันออฟโรด ด้วยนวัตกรรมระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าแรงดัน 800 โวลต์ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ all wheel drive และช่วงล่างถุงลมปรับระดับอัตโนมัติ adaptive air suspension พื้นที่เหนือศีรษะภายในห้องโดยสาร ตอนหลังยังเพิ่มขึ้น 47 มม. รวมทั้งพื้นที่ท้ายรถมีความมาจุกว่า 1,200 ลิตร มาพร้อมกับฝาท้ายขนาดใหญ่ เพิ่มความสะดวกสบายในการบรรจุสัมภาระ” นายโรห์เวอร์ สรุป

ทั้งนี้ Porsche Taycan 4 Cross Turismo และ 4S Cross Turismo ขยับราคา 1 แสนบาทจาการประกาศรับจองครั้งแรก (6.69 ล้านบาท และ 7.69 ล้านบาท ตามลำดับ) ส่วน Porsche Taycan Turbo Cross Turismo ราคาเท่าเดิมที่ 10.19 ล้านบาท นอกจากประเทศไทยแล้ว กรณีนี้ยังเกิดกับรถแบรนด์ยุโรปที่ส่งไปขายในญี่ปุ่น ที่หลายยี่ห้อประกาศขึ้นราคาประมาณ 100,000-150,000 เยนต่อคัน (ประมาณ 3.0-4.5 หมื่นบาท)

 

โฟล์คสวาเกน เป็นหนึ่งในแบรนด์ยุโรปที่ปรับราคา เช่น Volkswagen Tiguan R จากที่เคยขาย 6.89 ล้านเยน (ประมาณ 2 ล้านบาท) ซึ่งในเดือนตุลาคมนี้ ขึ้นราคาอีก 102,000 เยน (ประมาณ 3 หมื่นบาท) เช่นเดียวกับ อาวดี้จะขึ้นราคารถบางรุ่นถึง 150,000 เยน(ประมาณ 4.5 หมื่นบาท)

 

นอกจาก 2 แบรนด์เยอรมนีแล้ว ยังมีรายงานว่า เมอร์เซเดส-เบนซ์ ปรับขึ้นราคารถบางรุ่นไปแล้วสูงสุด 500,000 เยน (ประมาณ 1.5 แสนบาท) เช่นเดียวกับ เปอโยต์ และจี๊ป ในเครือ Stellantis (PSA ร่วม กับ FCA) ซึ่งค่าเงินญี่ปุ่นยังอ่อนค่าลงเป็น 110 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ จากต้นปี 2564 ที่อยู่ในระดับ 103-104 เยนต่อ ดอลลาร์สหรัฐฯ

 

ด้านแหล่งข่าวจาก ผู้นำเข้ารถยนต์อิสระรายใหญ่เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ช่วงปลายปี 2564 หรือตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้ เกรย์มาเก็ตหลายราย เตรียมปรับราคารถยนต์ที่นำเข้ามาจากยุโรปและญี่ปุ่น โดยรถยุโรปเตรียมขึ้นราคาประมาณ 2-3 แสนบาท ส่วนรถญี่ปุ่นจะขยับราคาตั้งแต่ 5 หมื่นบาทขึ้นไป