อาวดี้เปิดยุคใหม่รถพลังงานไฟฟ้า100% EV ด้วยรถเอสยูวี แน่นอนว่าเป็นตลาดที่สมเหตุสมผลกับเทคโนโลยีและกลุ่มลูกค้าขายได้เป็นจำนวนมากในระดับที่คุ้มค่าต่อการผลิต...จาก Audi e-tron เอสยูวี สู่ Audi e-tron Sportback เอสยูวีสไตล์คูเป้ท้ายลาด ส่วน Audi e-tron GT เป็นผลผลิตที่ใช้เทคโนโลยีของปอร์เช่ เพื่อนร่วมค่ายโฟล์คสวาเกน ล่าสุดเสริมไลน์เอสยูวีรุ่นเล็ก Audi Q4 e-tron
ปัจจุบัน อาวดี้ ไทยแลนด์ นำเข้า e-tron 3 รุ่นแรกมาทำตลาดแล้วส่วน Audi Q4 e-tron ก็คงเปิดตัวปลายปีนี้ ล่าสุดผมมีโอกาสได้ ลองขับ Review Audi e-tron Sportback 55 Quattro S line ราคา 5.299 ล้านบาท ที่รถเพิ่งจะพร้อมส่งมอบช่วงปลายปี 2563 (จริงๆ อยากลอง e-tron GT แต่ยังไม่มีรถทดสอบ)
Audi e-tron Sportback รูปลักษณ์ดูโฉบเฉี่ยวจากหลังคาท้ายลาด แต่คงไว้เรื่องความอเนกประสงค์ บรรทุกคน ขนของได้เพียบ เรียกว่าจะเป็นรถครอบครัวของบ้าน หรือขับใช้ในชีวิตประจำวันสำหรับคนมีสัมภาระเยอะก็เหมาะสม ด้วยตัวถังยาว 4.9 เมตร เบาะแถวสองนั่งสบาย หรือถ้าพับพนักพิงลงก็เพิ่มพื้นที่ในแนวลึก จัดวางสิ่งของยาวๆได้สบาย ด้วยความจุสูงสุด 1,665 ลิตร ขณะที่ ช่วงล่างถุงลม Adaptive Air Suspension ช่วยให้รถปรับความสูงได้หลายระดับ ซึ่งจากเตี้ยสุดถึงสูงสุดขยับได้ 7.6 เซนติเมตร
ทั้งนี้ ผู้ขับสามารถเลือกได้เองผ่าน 7 โหมด หลังจากกดปุ่ม Drive Select ทั้งสูงสุด offroad และ allroad ไล่ลงมาเป็น comfort, auto และเตี้ยสุด คือ dynamic, efficiency รวมถึงการปรับแต่งเองในโหมด individual แน่นอนว่ารถขยับความสูงและปรับบุคลิกการตอบสนองของพวงมาลัย ระบบควบคุมการทรงตัว อัตราเร่ง และเบรกด้วย
Audi e-tron Sportback ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวขับเคลื่อนล้อหน้าและล้อหลัง ให้กำลังสูงสุด 408 แรงม้าแรงบิดสุด 664 นิวตัน-เมตร โดยกำลังจากมอเตอร์ก่อนลงสู่เพลาขับจะมีหนึ่งอัตราทด Single gear คอยควบคุม
ในโหมด Auto การออกตัวเพื่อความมั่นคง (ในทุกสภาพถนน) จะเป็นแบบขับเคลื่อนสี่ล้อ มอเตอร์หน้าและหลังทำงานพร้อมกัน แต่ถ้าขับออกไปแล้วใช้ความเร็วนิ่งๆ สภาพถนนปกติรถจะขับด้วยมอเตอร์หลัง (กำลัง 224 แรงม้า) ตัวเดียวเพื่อประหยัดการใช้พลังงาน แต่ถ้าใช้ความเร็วสูงขึ้น หรือสภาพแวดล้อมในการขับขี่เปลี่ยนไป รถจะสั่งให้มอเตอร์หน้า (184 แรงม้า) เข้ามาช่วยทันที แน่นอนว่ารถจะเลือกระดับความสูงของรถให้เหมาะสมด้วย
ด้านอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 5.7 วินาที ในบูสต์โหมด (ดันคันเกียร์ลงมาจากโหมด D เป็น S) และการขับโหมด Dynamic ผมว่ารถจัดการพลังงานได้ดี ปลดปล่อยพละกำลังออกมาได้รวดเร็วจากประสิทธิภาพของมอเตอร์ไฟฟ้า พร้อมการทรงตัวที่ยอดเยี่ยม พวงมาลัยหนักหน่วง ควบคุมแบบตึงๆ มือ ใช้ความเร็วสูงขับได้มั่นใจ พร้อมล้ออัลลอยวงโต 21 นิ้ว ประกบยาง Goodyear Eagle F1 ขนาด 265/45 R21
พื้นห้องโดยสารของ Audi e-tron Sportback วางแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 95 กิโลวัตต์ชั่วโมง ตามโหมดการวัดของยุโรป NEDC ระบุว่าชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้งรถวิ่งได้ระยะทาง 463 กม. แต่ก็น่าแปลกใจจากรถทดสอบคันที่ผมขับ หลังจากชาร์จไฟเต็ม เมื่อกดปุ่มสตาร์ทระบบขับเคลื่อน ตัวเลขระยะทางที่วิ่งได้ (Range) แสดงอยู่ที่ 284 กม.เท่านั้น ซึ่งรถคงจะคำนวณลักษณะการขับขี่ก่อนหน้าผมละครับ (อาจจะขับดุดันใช้ความเร็วสูง)
ในส่วนการชาร์จพลังงานไฟฟ้า ช่องเสียบอยู่บริเวณซุ้มล้อหน้าฝั่งคนขับเป็นแบบ CCS Combo 2 รองรับการชาร์จไฟกระแสสลับ หัว AC Type 2 (สูงสุด 11 กิโลวัตต์ชั่วโมง) และชาร์จ DC กระแสตรง (สูงสุด 150 กิโลวัตต์ชั่วโมง) ระยะเวลาการชาร์จก็ขึ้นอยู่กับ Wall Box ที่บ้านท่าน
รวบรัดตัดความ... Audi e-tron Sportback โครงสร้างตัวถังดูใหญ่ แต่ขับจริงไม่เทอะทะ ส่วนแรงม้าแรงบิดระดับซูเปอร์คาร์ เมื่อมาอยู่ในคราบ เอสยูวี อาวดี้สามารถจัดการประสิทธิผลออกแบบสมรรถนะให้สอดคล้องตามผู้ขับขี่ (พ่อบ้านเท้าหนัก) ต้องการ จังหวะควบคุมและการทรงตัวยังเนียนแน่นเหมือนที่อาวดี้ทำกับ รถ ICE กินนํ้ามันนั่นละครับ
- อุปกรณ์อำนวยความสะดวก-ปลอดภัยของ Audi e-tron Sportback 55 Quattro S line