ดูคาติ เปิดรถใหม่ 10 รุ่น รับสมัครดีลเลอร์ทั่วประเทศ

07 ก.พ. 2565 | 09:20 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ก.พ. 2565 | 16:34 น.

ดูคาติ รุกหนักตลาดบิ๊กไบค์ เปิดรถใหม่ 10 รุ่น พร้อมเสริมบริการหลังการขายด้วยการรับสมัครดีลเลอร์ทั่วประเทศ

หลังจากดูคาติ ประเทศไทย ที่ดำเนินงานโดยบริษัทโมโตเร อิตาเลียโน จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ดูคาติอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเข้ามาทำตลาดอย่างจริงจังตั้งแต่ปีที่ผ่านมา และได้รับผลการตอบรับที่ดี โดยเฉพาะช่วงปลายปีที่เข้าร่วมงาน Motor Expo 2021 สามารถกวาดยอดจองจนรถหมดสต๊อกในรุ่น Scrambler Icon dark, All new monster 937 และ Multistrada 

 

นายกฤษณะกร เศวตนันทน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โมโตเร อิตาเลียโน จำกัด  กล่าวว่า ผลจากการตอบรับที่ดีในช่วงปลายปี 2564 ทำให้ในปี 2565 ทิศทางการตลาดของดูคาติ พร้อมเดินหน้ารุกเต็มพิกัด เริ่มตั้งแต่การเปิดตัวรุ่นใหม่  10 รุ่นครบทุกเซกเมนต์ ทั้งกลุ่ม Heritage ,กลุ่ม Sport Naked ,กลุ่ม Touring ,กลุ่ม Cruiser และกลุ่ม Super Sport  ซึ่งแต่ละกลุ่มมีรถรุ่นใหม่เปิดตัวมากกว่า 2 รุ่นด้วยกัน รวมไปถึงรถรุ่นพิเศษที่มีเพียงไม่กี่คันในประเทศไทย เพื่อเพิ่มความพิเศษและน่าสนใจให้กับกลุ่มตลาดรถบิ๊กไบค์มากขึ้น
 

นายกฤษณะกร เศวตนันทน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โมโตเร อิตาเลียโน จำกัด

สำหรับรายละเอียดรถบิ๊กไบค์รุ่นใหม่ที่เปิดตัวมีดังนี้ 

กลุ่ม Heritage

  • Scrambler 1100 Tribute Pro รุ่นเฉลิมฉลองความสำเร็จครบรอบ 50 ปี เครื่องยนต์ L-Twin 2 สูบ ของดูคาติ มาพร้อมกับดีไซน์คลาสสิคและ Logo ที่พาย้อนกลับไปในยุค 70 กับราคา575,000 บาท

 

Scrambler 1100 Tribute Pro

  • Scrambler Urban Motard การผสมผสานที่ลงตัวของโมเดิร์นคลาสสิคและโมตาส พร้อมลวดลายกราฟฟิตี้ที่โดนเด่นเป็นเอกลักษณ์ สีแดงแบบเดียวกับรถแข่งใน Moto GP ในราคา 464,000 บาท

 

Scrambler Urban Motard

 

กลุ่ม Sport Naked

  • Streetfighter V2 อิตาเลียนดีไซน์ สานต่อความสำเร็จจาก Streetfighter V4 ที่มีการออกแบบที่สวยงาม โดดเด่น และ ได้รับรางวัล ‘’The most Beautiful’’ ในงาน Eicma ปี 2019 พร้อมผสมผสานกับเครื่องยนต์ Superquadro จาก Panigale V2 ราคาประมาณการไม่เกิน 750,000 บาท

 

  • Streetfighter V4 SP ที่มีเพียง 3 คัน เท่านั้น ในประเทศไทย ถือเป็นการกำเนิดของ King of naked bike กับการอัพเกรดวัสดุอุปกรณ์ที่ได้ส่งต่อมาจาก Superleggera V4  โดยล้อ Carbon น้ำหนักเบา ทรงพลัง และแข็งแรงทนทาน Dry-Clutch คลัชแห้งที่เป็นเอกลักษณ์ของ Ducati ถอดแบบมาจากรถแข่งในรายการระดับโลกอย่าง World Superbike[WSBK] ราคาประมาณการไม่เกิน 1.6 ล้านบาท
     

Streetfighter V4 SP

กลุ่ม Touring

  • Multistrada V2 สายทัวริ่ง จากความสำเร็จที่มีใน Multistrada 950 S ถูกนำมาต่อยอดและพัฒนาให้รถ Multistrada V2 มีความคล่องแคล่วมากยิ่งขึ้นด้วยเครื่องยนต์ 937cc Testastretta 11° ชุดคลัชและเกียร์ถูกปรับปรุงให้ดีขึ้น และใช้งานง่าย น้ำหนักตัวที่เบาลงถึง 5 กิโลกรม ตัวเบาะถูกออกแบบใหม่ให้พื้นที่ระหว่างขาแคบลง ยืนคร่อมได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น ราคาประมาณการไม่เกิน 7 แสนบาท

 

Multistrada V2

 

 

  • Multistrada V4 Pikes Peak รุ่นใหญ่ที่มียอดจองสูงที่สุดในเดือนมกราคมที่ผ่านมา เป็นรถ Sport touring ที่คว้ารางวัลการแข่งขัน Pikes Peak International Hill Climb ขุมพลัง 170 แรงม้า ถือเป็นรถที่แรงม้าสูงที่สุดในโลกของตระกูล Touring Adventure มาพร้อมกับ ล้อหน้า 17 นิ้ว เพิ่มความ Sport , Single side swing-arm ที่ล้อหลัง ระบบกันสะเทือนไฟฟ้าจาก Öhlins เต็มระบบ มาพร้อมกับราคาประมาณการไม่เกิน 1.5 ล้านบาท

Multistrada V4 Pikes Peak

 

  • DesertX ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจากรถแข่ง Rally ในยุค 80 (Post – Heritage) อัดแนนด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย ครั้งแรกกับ Ducati ที่ใช้ล้อหน้า 21 นิวและล้อหลัง 18 นิ้ว พร้อมกับโหมดการขับขี่ 6 โหมด มีถังน้ำมันสำรองเสริมที่ด้านหลังขนาด 8 ลิตร ราคาประมาณการไม่เกิน 7 แสนบาท

DesertX

 

 

กลุ่ม Cruiser

  • Xdiavel เป็นรุ่นพิเศษที่นำเข้ามาเพียงไม่กี่คันในประเทศไทย กับสีพิเศษ สนนราคาไม่เกิน 1.2 ล้านบาท

 

กลุ่ม Superbike

  • Panigale V4 รุ่น model ปี 2022 ได้มีการ อัพเกรด Winglets สามารถสร้างแรงกดจาก Aerodynamics ได้ถึง 37 kg. ในความเร็วที่ 300 Km./h เครื่องยนต์ Desmosedici Stradale ที่ถอดแบบมาจาก รถแข่ง MotoGP ชุดเกียร์ที่อัพเกรดใหม่ทั้งหมด ซึ่งถูกถอดแบบ Ratio มาจาก WSBK สับเกียร์ได้ อย่างรวดเร็ว แม่นยำแถมยังสร้างแรง Engine brake ได้ดียิ่งขึ้นและควบคุมได้ดีขึ้น อัพเกรดโช๊คหน้าจากแบรนด์ระดับโลกอย่าง Öhlins โช๊คไฟฟ้า อัจริยะ

 

Panigale V4

 

  • PanigaleV4 SP2 ที่มีเพียง 5 คัน เท่านั้นในประเทศไทย ดีไซน์สะดุดตา ดุดัน ถังน้ำมันอัลลอยด์แบบเปลือย รวมไปถึงวงล้อคาร์บอนไฟเบอร์ที่ให้น้ำหนักที่เบากว่าล้อที่ติดตั้งในรุ่นปกติถึง 3.4 กก. ราคาประมาณการไม่เกิน 1.7 ล้านบาท

 

PanigaleV4 SP2

นายกฤษณะกร กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากแผนงานด้านผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ดูคาติ ยังมุ่งเสริมความแกร่งด้านการบริการหลังการขาย โดยมีแผนที่จะเปิดโชว์รูมเพิ่มเติมในแต่ละภาคให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้กำลังเปิดให้ผู้ที่สนใจสมัครเป็นตัวแทนจำหน่าย โดยผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโดยตรงได้ที่ดูคาติ

 

 

ขณะที่แผนการตลาดในส่วนอื่นๆ เตรียมจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด ส่งเสริมการขาย และสานสัมพันธ์รวมกลุ่มสาวกดูคาติเพื่อสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง อาทิ การจัดงานแสดงรถดูคาตินอกสถานที่ จัดกิจกรรมการทดสอบการขับขี่ตามหลักสูตร DRE การขับขี่ออกทริปต่างจังหวัด หรือกิจกรรมประจำปีอย่างงาน Ducati fun fair 

 

นอกจากนั้นแล้วยังทำแคมเปญส่งเสริมการตลาด  “ลดโหดเหมือนโกรธใครมา” ด้วยข้อเสนอพิเศษ อาทิ  

  • Scrambler icon red/yellow ดาวน์ 0% ผ่อนเริ่มต้น 7,179 บาท ต่อเดือน นาน 60 เดือน
  • Monster ดาวน์ 0% ผ่อนเริ่มต้น 8,079 บาท ต่อเดือน นาน 60 เดือน
  • Multistrada V4/V4S ดาวน์ 0% ผ่อนเริ่มต้น 17,975 บาท ต่อเดือน นาน 60 เดือน
  • Diavel 1260/1260 S Black ดาวน์ 0% ผ่อนเริ่มต้น 16,895 บาท ต่อเดือน นาน 60 เดือน
  • Diavel Black Star ดาวน์ 0% ผ่อนเริ่มต้น 20,673 บาท ต่อเดือน นาน 60 เดือน
  • Streetfighter V4 ดาวน์ 0% ผ่อนเริ่มต้น 17,075 บาท ต่อเดือน นาน 60 เดือน
  • Panigale V4 / V4S ดาวน์ 0% ผ่อนเริ่มต้น 17,975 บาท ต่อเดือน นาน 60 เดือน