หลังจากอีซี่คาร์ (Eazy Car) ผู้ให้บริการ Car Subscription ธุรกิจรถเช่าแบบสมาชิกเพื่อใช้รถในระยะยาว ได้เปิดบริการเป็นเวลา 1 ปี และ ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า โดยมีจำนวนสมาชิกหรือ subscribers กว่า 200 ราย มูลค่ารวมกว่า 200 ล้านบาท
นายอติคุณ เผอิญโชค แมคโดนัลด์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อีซี่คาร์ บริษัท ไทย วี.พี. คอร์ปอเรชั่น ในเครือบริษัท ไทยรุ่ง พาร์ทเนอร์ส กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 กระทบกับทุกภาค โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจและกำลังซื้อ ยอดการซื้อรถลดลงต่อเนื่องแต่ความต้องการที่จะใช้รถยังคงมีอยู่ เพราะคนมีความต้องการใช้รถส่วนตัวเพิ่มมากขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงโรคติดต่อจากการใช้รถสาธารณะ
ดังนั้นจึงถือเป็นโอกาสของอีซี่คาร์ซึ่งเป็นบริการรถเช่าในรูปแบบสมาชิกที่ผู้บริโภคจะเข้าถึงรถได้ง่ายขึ้นและสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างชัดเจนไม่บานปลาย สามารถตอบโจทย์ความเปลี่ยนแปลงในสถานการณ์นี้ได้อย่างลงตัว
"การใช้รถยังคงมีความต้องการใช้เพิ่มขึ้น แต่จะหันมาใช้บริการรถยนต์พร้อมใช้มากขึ้น เนื่องจากตระหนักถึงความสะดวก และอิสรภาพที่ไม่ต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายผูกพัน ทั้งค่าประกัน ค่าบำรุงรักษา และค่าเสื่อมราคาในแต่ละปี นอกจากนี้คนรุ่นใหม่ยังมีความต้องการรถที่หลากหลาย เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตในสังคมจึงหันสู่ธุรกิจรถเช่าพร้อมใช้มากขึ้น"
ปัจจุบัน อีซี่คาร์ มีรถให้บริการทุกรูปแบบ ทั้งรถอีโคคาร์ รถยนต์ซีดาน SUV กระบะปิกอัพ รถยนต์ไฮบริด และยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถเลือกได้ตามรูปแบบความต้องการใช้ เลือกทำสัญญาระยะยาวได้ตั้งแต่ 1-5 ปี ปรับแต่งรายละเอียดได้ เปลี่ยนรถได้ตามเงื่อนไข สามารถซื้อขาดเพื่อเป็นเจ้าของรถได้ทุกเมื่อ หรือเลือกทำสัญญาแบบรายเดือน ยกเลิกเมื่อไหร่ก็ได้ตามต้องการ และเปลี่ยนรถได้ตามเงื่อนไขเช่นกัน
นายอติคุณ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแผนงานในปี 2565 จะเน้นเชิงรุกมากขึ้น ทั้งเจาะกลุ่มเป้าหมายใหม่ การจับมือพันธมิตรใหม่ การมีแบรนด์แอมบาสเดอร์ การเพิ่มบริการรถเช่ามือสอง ในราคาที่คุ้มค่า โดยบริษัทฯคาดว่าในปี 2565 จะเพิ่มยอดสมาชิกให้เติบโตกว่า 500% หรือจำนวนสมาชิกมากกว่า 1,200 ราย และคิดเป็นมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท
นายพงศ์ศักดิ์ พัฒนไพรสณฑ์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ ฝ่ายกลยุทธ์และการตลาด อีซี่คาร์ บริษัท ไทยวี.พี. คอร์ปอเรชั่น จำกัด ในเครือบริษัท ไทยรุ่ง พาร์ทเนอร์ส กรุ๊ป จำกัดเปิด เผยว่า เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่เพิ่มมากชึ้น บริษัทจึงมีความร่วมมือกับพันธมิตรใหม่ ได้แก่ บริษัท เบนซ์ บี เคเค กรุ๊ป จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ เมอร์เซเดส-เบนซ์รายใหญ่ และ บริษัท บี ออโต้ฮาวส์ จำกัด ผู้จำหน่ายรถยนต์นำเข้าจากทั่วทุกมุมโลก รวมถึง นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย
ขณะเดียวกัน แผนงานในปีนี้ จะขยายกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆอาทิ กลุ่ม SMEs Start-up และ ชาวต่างชาติ หรือ Expat และกลุ่มผู้ไม่มีเงินเดือนประจำ ทั้งเจ้าของกิจการ และ ฟรีแลนซ์มากขึ้น ควบคู่ไปกับการใช้ Brand Ambassadors เพื่อเจาะกลุ่มผู้ใช้ให้ครอบคลุมมากขึ้น