สงครามรัสเซีย-ยูเครน ฉุดซัพพลายเชนโลก อุตฯยานยนต์หวั่นชิปขาดหายต่อเนื่อง

04 มี.ค. 2565 | 07:13 น.
อัปเดตล่าสุด :04 มี.ค. 2565 | 16:56 น.

“ยูเครน” อยู่ห่างจากประเทศไทยกว่า 7,000 กม. แต่ศึกใหญ่ที่กำลังปะทุจากการกรีธาทัพของรัสเซียในตอนนี้ ทำให้ทั้งโลกสั่นสะเทือน เช่นเดียวกับไทยที่ได้รับผลกระทบในหลายมิติ

2 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจภาพรวม และอุตสาหกรรมยานยนต์โลก อ่วมจากวิกฤตโควิด-19 จนกระทั่งประเดิมศักราชใหม่ในปี 2565 ทุกเซกเตอร์เริ่มปรับตัว และคาดว่าสถานการณ์ต่างๆจะมีแนวโน้มดีขึ้น (แต่ยังไม่เท่าช่วงปกติ) ทั้งปัญหาขาดแคลนชิ้นส่วนเพื่อการผลิต (Chip Shortage) อุปสรรคด้านการ ขนส่ง ค่าระวางสินค้าสูงขึ้นตลอดจนต้นทุนวัตถุดิบในการผลิตขยับตัวจากต้นทางคือพวกแร่และโลหะมีค่า

       

ถึงวันนี้ ปัญหาเศรษฐกิจและซัพพลายเชนของโลก ดูเหมือนจะยังไม่สามารถกลับมาอยู่ในเส้นทางที่หลายฝ่ายคาดหวัง จากสงครามที่รัสเซียก่อขึ้น

สงครามรัสเซีย-ยูเครน ฉุดซัพพลายเชนโลก อุตฯยานยนต์หวั่นชิปขาดหายต่อเนื่อง

อุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ประเมินว่าตลาดในประเทศและส่งออกจะฟื้นตัว พร้อมตั้งเป้าหมายการผลิตรถยนต์ในปี 2565 ไว้ 1.8 ล้านคัน (เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ที่ทำได้ 1.68 ล้านคัน) ในจำนวนนี้เป็นยอดส่งออก 1 ล้านคัน

       

รายงานจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยในเดือนมกราคม 2565 (ก่อนรัสเซียบุกยูเครน) ระบุว่า เดือนธันวาคม ปี 2564 สามารถส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป ได้ 101,307 คัน สูงสุดในรอบ 9 เดือน หรือเพิ่มขึ้น​จาก​เดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา​ 2.5% และเพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2563 ถึง 48% จากการที่โรงงานผลิตได้รับเซมิคอนดั๊กเตอร์และชิ้นส่วนมากขึ้น จนสามารถส่งออกรถยนต์ได้เพิ่มขึ้นทุกตลาด

       

โดยเฉพาะตลาดออสเตรเลียและโอเชียเนีย ขยายตัว 102% ยุโรปขยายตัว 65% ตลาดอเมริกา เหนือขยายตัว 55% ตลาดอเมริกากลางและอเมริกาใต้ขยายตัว 122% ซึ่งเป็นผลมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า ขณะเดียวกันไทยยังส่งออกเครื่องยนต์ ชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย

ทว่า เมื่อสงครามปะทุขึ้นหลายประเทศเริ่มมีมาตรการควํ่าบาตรรัสเซีย เพื่อเพิ่มอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจ ตัดท่อนํ้าเลี้ยงรัฐบาลเครมลิน แต่ในทางกลับกันประเทศที่ออกมาตรการแซงชันนั้น ย่อมได้รับผลกระทบจากวงจรที่ไม่สามารถดำเนินได้ตามปกติเช่นกัน

       

ทั้งนี้ ต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชัน ประกาศหยุดการผลิตรถยนต์ในประเทศญี่ปุ่น 1 วัน หลังจากซัพพลายเออร์รายใหญ่ KOJIMA INDUSTRIES CORPORATION ผู้ป้อนชิ้นส่วน พลาสติก และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ให้แก่โรงงานโตโยต้า โดนโจมตีทางไซเบอร์

สงครามรัสเซีย-ยูเครน ฉุดซัพพลายเชนโลก อุตฯยานยนต์หวั่นชิปขาดหายต่อเนื่อง

โดยโรงงานผลิตรถยนต์โตโยต้าในญี่ปุ่น 14 แห่ง รวม 28 สายการผลิต จำเป็นต้องหยุดทำงานในวันที่ 1 มีนาคม 2565 และกลับมาผลิตอีกครั้งในวันที่ 2 มีนาคม 2565 ซึ่งประเด็นนี้มีผู้สันทัดกรณี ตั้งข้อสงสัยว่า อาจจะมีส่วนจากการที่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น “คิชิดะ ฟูมิโอะ” ออกมาประกาศควํ่าบาตรรัสเซีย ผ่านมาตรการต่างๆ เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

       

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศ ไทย เปิดเผยว่า หากสงครามรัสเซียและยูเครนรุนแรงและยืดเยื้อกว่าที่คาด ความเสี่ยงต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกสูงขึ้น นอกจากจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจของทั้งรัสเซียและยูเครนแล้ว ยังทำให้ทั่วโลกได้รับผลกระทบจากราคานํ้ามันดิบและก๊าซธรรมชาติที่สูงขึ้นมาก

“ราคานํ้ามันดิบปรับตัวขึ้นสูงสู่ระดับ 100 ดอลลาร์ฯ ต่อบาร์เรลเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี และยังมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตแพงขึ้นมาก เช่นเดียวกับอัตราเงินเฟ้อที่สูงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งกระทบต่อความเชื่อมั่นของทั้งผู้บริโภคและนักลงทุน และอาจทำให้การเติบโตของเศรษฐกิจโลกในภาพรวมลดลงได้” นายสนั่นกล่าว

 

...ซัพพลายเชนโลกยังป่วน ปัญหาต้นทุนในการผลิตพุ่ง นํ้ามันแพง เงินเฟ้อ ขณะที่อุตสากรรมยานยนต์อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยี ล้วนเป็นความท้าทายของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในยุคนี้