นาย ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรถยนต์รวมในปี 2565 คาดว่าจะมียอดขายประมาณ 900,000 คัน โดยปัจจัยที่มีผลกับอุตสาหกรรมนี้คือ การขาดแคลนชิ้นส่วนรถยนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องมาจากปีที่แล้ว
"ถ้าสถานการณ์ เซมิคอนดักเตอร์ ไม่ดีขึ้นก็น่าจะส่งผลให้ตลาดเป็นลบ ส่วนที่มองว่าตลาดเป็นบวกก็มาจากการที่สามารถส่งมอบออร์เดอร์ที่ค้างส่งได้"
ในส่วนของอีซูซุ ยอดขายรวมของรถอีซูซุปีที่แล้วคือ 184,160 คัน แบ่งเป็นรถปิกอัพอีซูซุดีแมคซ์ 150,741 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดรถปิกอัพของอีซูซุ 44.1% และรถอเนกประสงค์อีซูซุมิว-เอ็กซ์ ขายได้ 16,439 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 31.6% สำหรับรถบรรทุกขนาดกลางและขนาดใหญ่ อีซูซุขายได้ 16,980 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 50.6%
สำหรับปีนี้เป็นตัวเลขประมาณการณ์ เพราะขึ้นอยู่กับชิ้นส่วนรถยนต์ และปริมาณของเซมิคอนดักเตอร์ที่จะได้รับ ซึ่งอีซูซุไม่ได้ตั้งเป้าไว้เป็นตัวเลข แต่เนื่องจากส่วนแบ่งการตลาดปีที่แล้วดีมาก จึงคิดว่าถ้าสามารถรักษาส่วนแบ่งการตลาดได้เท่าปีที่แล้วก็คงจะดี
"ยอดขายของอีซูซุในปีนี้น่าจะทำได้ดี ทั้งนี้เป็นผลมาจากการมียอดค้างส่งมอบจากปีที่แล้วเป็นจำนวนมาก ซึ่งไม่ใช่เฉพาะแค่รถปิกอัพของอีซูซุ แต่รวมถึงรถปิกอัพของค่ายอื่นๆ ก็มียอดค้างส่งจากปีที่แล้วด้วยเช่นกัน ปัจจัยต่อมาคือ โควิด-19 ทำให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซมีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้มีความจำเป็นต้องใช้รถปิกอัพในการขนส่งสินค้า เดลิเวอรี่ไปตามที่ต่างๆ ทำให้ความต้องการของรถปิกอัพเพิ่มมากขึ้น"
โควิด-19 มีผลต่อการทำตลาดหรือไม่อย่างไร
พฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนแปลงไปจากภาวะโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ไม่เฉพาะปีนี้ แต่เป็นตั้งแต่ปีที่แล้วที่เริ่มโควิด-19 ทำให้ลูกค้ากลัวที่จะเดินทางไปโชว์รูม จึงมีการติดต่อกับพนักงานขายของอีซูซุทางออนไลน์มากยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นความโชคดีที่ก่อนจะเกิดภาวะโควิด-19 ทางอีซูซุได้เตรียมแผนการตลาด มุ่งเน้นพัฒนาทางด้านดิจิตอล มาร์เก็ตติง ไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เพราะฉะนั้นพนักงานขายของอีซูซุ สามารถใช้ ดิจิตอล มาร์เก็ตติง ให้เป็นประโยชน์มากยิ่งขึ้นในการเข้าหาลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขณะเดียวกันเมื่อสถานการณ์โควิด -19 คลี่คลาย หรือชะลอตัวลง และลูกค้าอยากทำกิจกรรมนอกบ้าน ทางอีซูซุก็มีโปรเจคพิเศษ “MASTER OF ALL ROADS” และมีโครงการ กิจกรรมออฟไลน์ อื่นๆ เกี่ยวกับการใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อให้มากขึ้น
สงครามรัสเซีย -ยูเครนกระทบกับอีซูซุหรือไม่
ปัญหาจากสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ส่งผลกระทบทำให้ Supply Chain เกิดปัญหา เพราะมีวัตถุดิบในการผลิตอะไหล่รถยนต์มาจากประเทศทางแถบยุโรปค่อนข้างเยอะ
ปัจจัยเรื่องราคาน้ำมัน มีผลอย่างไร
การที่น้ำมันมีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลกระทบ ทั้งผลดีและผลเสีย ผลดี คือ รถปิกอัพใช้น้ำมันดีเซล ซึ่งรัฐบาลควบคุมราคาน้ำมันอยู่ ผลเสียคือลูกค้าผู้ใช้รถปิกอัพก็ประสบปัญหาเกี่ยวกับสภาวะเศรษฐกิจเหมือนกัน ดังนั้นโอกาสที่จะเปลี่ยนรถใหม่ก็มีน้อยลง
นโยบายเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้า
มาตรการเรื่องยานยนต์ไฟฟ้าที่รัฐบาลสนับสนุนอยู่ ทางอีซูซุ กำลังพิจารณาเช่นกันว่าเมื่อไหร่จะเป็นเวลาที่เหมาะสม ลูกค้าแต่ละประเภทมีลักษณะการใช้งานอย่างไรถึงจะตัดสินใจอีกครั้ง ปัจจุบันอีซูซุขายรถปิกอัพเป็นหลักยังไม่มีรถ EV และลูกค้าไม่ถามถึง EV ด้วย อย่างไรก็ตามอีซูซุมีเทคโนโลยีที่ประเทศญี่ปุ่น ทั้งในเชิงพาณิชย์ที่ใช้งานจริง และอยู่ในระหว่างการทดลอง
ส่วนผลกระทบของรถยนต์ไฟฟ้าจะมีผลกับตลาดรถปิกอัพหรือไม่นั้น เบื้องต้น อีซูซุ มองว่ารถยานยนต์ไฟฟ้าไม่น่าจะส่งผลกระทบกับตลาดรถปิกอัพ เพราะลักษณะการใช้งานของรถปิกอัพมีลักษณะพิเศษ