โตโยต้า เตรียมขยับพอร์ตรถยนต์นั่ง ภายใต้สิทธิ์การลงทุนอีโคคาร์ 2 และไฮบริด จ่อเลิกผลิต Toyota Vios เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร และแทนที่ด้วยโมเดลเชนจ์ของ All new Toyota Yaris Ativ 2022 เต็มตัว ซึ่งมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร พร้อมเปิดตัว 9 สิงหาคมนี้ และขุมพลังไฮบริดจะตามมาในปีหน้า ขณะที่นิสสันเลิกผลิต Nissan March หันมาทุ่มกำลังให้ Nissan Almera 1.0 เทอร์โบ เช่นเดียวกับ Honda Jazz ที่ยุติการผลิตในไทยแล้ว
ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นปรับแผนการลงทุน และการทำตลาดรถยนต์นั่งตามสิทธิประโยชน์ที่ได้รับจากบีโอไอ โดยเฉพาะเก๋งเล็กในโครงการอีโคคาร์เฟส 2 เสียภาษีสรรพสามิต 12% และรถไฮบริด เสียภาษีสรรพสามิต 4% (ปล่อยไอเสียไม่เกิน 100 กรัม/กม.) ที่ยอดผลิตรถประเภทไฮบริด สามารถนำมานับรวมกับยอดผลิตอีโคคาร์เฟส 2 ที่บีโอไอกำหนดให้มีการผลิต 100,000 คันต่อปี ตั้งแต่ปีที่ 4 เป็นต้นไป เพื่อรับสิทธิ์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามเงื่อนไขการลงทุน
ภายใต้แนวทางนี้ ค่ายที่ดำเนินการไปแล้วคือ ฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย ที่ใช้ Honda City เป็นรถอีโคคาร์ เฟส 2 (อีโคคาร์ เฟสแรกกับ Honda Brio เลิกผลิตปิดโครงการไปแล้ว) เครื่องยนต์ 3 สูบ 1.0 ลิตร เทอร์โบ พร้อมรุ่นไฮบริด e:HEV มีให้เลือกทั้งตัวถังแฮตช์แบ็ก และซีดาน ขณะที่ Honda Jazz เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ยุติการผลิตในไทยแล้ว
ส่วนพี่ใหญ่ “โตโยต้า” เตรียมปรับพอร์ตรถยนต์นั่งใหม่เช่นกัน โดยโตโยต้าเตรียมเลิกผลิต Toyota Vios เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร (เสียภาษีสรรพสามิต 20%) และมุ่งเน้นทำตลาด Toyota Yaris Ativ อีโคคาร์เฟส 2 ที่เตรียมเปิดตัวโฉมใหม่แบบโมเดลเชนจ์ในวันที่ 9 สิงหาคมนี้
โดย Toyota Yaris Ativ ใหม่ ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT มาพร้อมระบบความปลอดภัยรอบคัน พร้อมดึง “แบม แบม GOT7” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์
อย่างไรก็ตาม เพื่อปิดช่องว่างของ Toyota Vios เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ที่จะเลิกผลิต โตโยต้าจะเพิ่มทางเลือกด้วย Toyota Yaris Ativ ไฮบริด ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ประสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งตอบโจทย์ในแง่การตลาด และแผนส่งเสริมการลงทุนที่วางเอาไว้ โดยเตรียมเปิดตัวในปี 2566
ปัจจุบัน Toyota Vios ยังทำยอดเฉลี่ย 300 คันต่อเดือน หรือช่วง ครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย. 65) ขายไป 1,829 คัน ส่วนยอดขาย Toyota Yaris Ativ ซีดาน (ก่อนจะเปลี่ยนโมเดล) ทำได้ 10,648 คัน และ Toyota Yaris แฮตช์แบ็ก 14,715 คัน ที่ขายเป็นอันดับหนึ่งในบรรดาอีโคคาร์ทุกรุ่นทุกตัวถัง
สำหรับยอดขายโตโยต้าทุกรุ่น 6 เดือนที่ผ่านมา ทำได้ 142,032 คัน เพิ่มขึ้น 21.2% ในจำนวนนี้เป็นรถยนต์นั่ง 38,894 คัน เติบโต 30.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
นายโนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า จากมาตรการผ่อนคลายและการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจปรับไปในทิศทางที่ดีขึ้น และจะส่งผลบวกต่อทิศทางของตลาด จึงเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง จะสามารถฟื้นตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น
“ดังนั้นเราจึงคาดว่ายอดขายรถยนต์รวม (ทุกยี่ห้อ) ปี 2565 จะอยู่ที่ 880,000 คัน เพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ส่วนโตโยต้า มีเป้าหมายการขายในประเทศ 290,000 คัน (แผนเดิมคาดว่าจะขาย 284,000 คัน) เพิ่มขึ้น 21% จากปี 2564 คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 33%” นายยามาชิตะ กล่าว