กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้เปิดเผยตัวเลขการผลิตรถยนต์ตั้งแต่เดือนมกราคม - กรกฎาคม 2565 โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ยอดผลิต
ยอดผลิตรถยนต์ตั้งแต่ มกราคม - กรกฎาคม 2565 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,013,069 คัน เพิ่ม 4.68 % ส่วนตัวเลขการผลิตในเดือนกรกฎาคม 2565 ผลิตรถยนต์ทั้งสิ้น 142,958 คัน เพิ่ม 16.07% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ยอดขายในประเทศ
ตัวเลขยอดขายตั้งแต่เดือนมกราคม - กรกฎาคม 2565 รถยนต์มียอดขาย 491,329 คัน เพิ่ม 15.43 % เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ขณะที่ยอดขายในประเทศเดือนกรกฎาคม 2565 มีจำนวนทั้งสิ้น 64,033 คัน เพิ่ม 22.10 % โดยมีปัจจัยมาจากรัฐบาลผ่อนคลายให้นักท่องเที่ยวและนักลงทุนต่างประเทศเข้าประเทศสะดวกขึ้น มีนักท่องเที่ยวและนักลงทุนเดินทางเข้าประเทศกว่าสามล้านคน รวมทั้งการส่งออกที่ยังคงเติบโต การประกันรายได้เกษตรกร การกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ เช่น เราเที่ยวด้วยกัน เป็นต้น
ยอดส่งออก
เดือนมกราคม – กรกฎาคม 2565 ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 532,730 คัน ลดลง 2.09 เมื่อเทียบกับปี 2564 อย่างไรก็ตามเมื่อมาดูมูลค่าการส่งออกพบว่าทำได้ 318,641.23 ล้านบาท เพิ่ม 1.43 % ส่วนตลาดส่งออก ในเดือนกรกฎาคม 2565 ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปได้ 83,086 คัน เพิ่ม 17.70 % โดยตัวเลขที่เพิ่มขึ้นมาจากการส่งออกรถกระบะและรถยนต์นั่ง จึงส่งออกเพิ่มขึ้นทุกตลาดยกเว้นตลาดเอเชียที่ส่งออกลดลง เพราะผลิตรถ PPV ส่งออกลดลง
จากแนวโน้มของตลาดส่งออกที่ตัวเลขการขายลดลง ทำให้ส.อ.ท.มีการปรับลดเป้าหมายการส่งออกลดลง โดยนายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ประกาศว่า ได้ปรับเป้าผลิตรถยนต์ปี 2565 จาก 1,800,000 คัน เป็น 1,750,000 คันลดละ 50,000 คัน
สำหรับการปรับเป้าดังกล่าว แบ่งออกเป็นผลิตเพื่อการส่งออก ลดลงจาก 1,000,000 คัน เป็น 900,000 คัน และปรับเป้าผลิตขายในประเทศขึ้นจาก 800,000 คันเป็น 850,000 คัน
นายสุรพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า มีการปรับเป้ายอดขายในประเทศเพิ่มขึ้น หลังจากมีแนวโน้มการขายเติบโตเพราะมีปัจจัยสนับสนุน อาทิ การเปิดประเทศ ทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาหลายล้านคน มาตรการรัฐฯด้านต่างๆอาทิ ประกันรายได้สินค้าเกษตร มาตรการเยียวยา เราเที่ยวด้วยกัน คนละครึ่ง รวมไปถึงบริษัทฯรถยนต์มีการเปิดตัวรถใหม่ ทำแคมเปญโปรโมชัน