น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงแนวโน้มการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในประเทศไทยซึ่งประชาชนให้ความสนใจเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เป็นผลจากนโยบายรัฐบาลที่ส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า เพื่อลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิงและช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ผ่านมาตรการจูงใจทางภาษี
ซึ่งปัจจุบันนี้ มีจำนวนรถยนต์ไฟฟ้า จำนวน 2.84 แสนคัน แบ่งเป็น รถยนต์ไฮบริด 2.28 แสนคัน รถยนต์ไฮบริดปลั๊กอิน 3.7 หมื่นคัน และรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอร์รี่ 1.8 หมื่นคัน และมีการประเมินจากผู้ประกอบการอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า สิ้นปี 2565 ยอดขายรวม 6.3 หมื่นคัน แบ่งเป็น รถยนต์ไฮบริด 4.2 หมื่นคัน รถยนต์ไฮบริดปลั๊กอิน 1.1 หมื่นคัน และ รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอร์รี่ 1 หมื่นคัน
อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ทำให้ประชาชนลังเลในการตัดสินใจซื้อรถ EV คือ เบี้ยประกัน ที่พบว่า เบี้ยประกันภัยของรถยนต์ไฟฟ้าแพงกว่าเบี้ยประกันภัยของรถยนต์ทั่วไปอย่างมาก ซึ่งทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้เร่งหาแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยในช่วงนี้บริษัทประกันภัยรถ EV จะไม่มีการขึ้นเบี้ยประกันภัยเพิ่มเติมโดยบริษัทจะคงราคานี้ไว้ไปก่อน
ส่วนอนาคต ทางคปภ. จะพิจารณากรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ EV โดยเฉพาะ ซึ่งจำเป็นต้องจัดทำพิกัดอัตราเบี้ยประกันภัยรถ EV เพื่อให้ความคุ้มครองและอัตราเบี้ยประกันภัยสอดคล้องกับความเสี่ยงและต้นทุนในการรับประกันภัยอันจะเป็นการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนและสามารถตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนได้