ปตท.เปิดสถานีไฮโดรเจน จ.ชลบุรี Toyota Mirai วิ่งรับลูกค้าสนามบินอู่ตะเภา

สถานีเติมไฮโดรเจนสำหรับรถยนต์ เริ่มเปิดนำเดินการเป็นแห่งแรกในไทยแล้ว ที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ภายใต้ความร่วมมือของ 4 พันธมิตร คือ ปตท. โออาร์ โตโยต้า และบีไอจี แม้จะไม่เปิดเผยมูลค่าในโครงการนี้ แต่คาดว่าแต่ละสถานีเติมพลังงานไฮโดรเจนจะต้องลงทุนระดับ 40-50 ล้านบาทต่อแห่ง

สำหรับโครงการนี้ เป็นรูปแบบสถานีนำร่องทดลองใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจน (Hydrogen Station) สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell Electric Vehicle: FCEV) โดยปตท.ยังไม่มีแผนขยายไปยังจังหวัดอื่นๆ และขอเวลาศึกษาพร้อมเก็บข้อมูลอีกอย่างน้อย 3-4 เดือน

สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่เข้าร่วมในโครงการนี้คือ Toyota Mirai รถ FCEV ที่โตโยต้านำเข้ามาจากญี่ปุ่นจำนวน 2 คัน เพื่อเป็นรถรับส่งระหว่างสนามบินอู่ตะเภา (U-Tapao Limousines) หรือให้บริการนักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจในพื้นที่พัทยา - ชลบุรี

Toyota Mirai เจเนอเรชันที่สอง เป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบเซลล์เชื้อเพลิง (ได้พลังงานไฟฟ้ามาจากไฮโดรเจน) มีถังไฮโดรเจน 3 ใบ เมื่อบรรจุก๊าซเต็มรวม 5.5 กิโลกรัม รถสามารถวิ่งได้ระยะทางไกลกว่า 800 กิโลเมตร โดยไม่ปล่อย CO2 เลย

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปตท.เล็งเห็นว่าการลงทุนด้านเทคโนโลยีพลังงานสะอาดอย่างไฮโดรเจน ซึ่งเป็นพลังงานที่มีศักยภาพ จะเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตาม การนำไฮโดรเจนมาใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับยานยนต์ เป็นนวัตกรรมใหม่สำหรับประเทศไทยที่จำเป็นต้องอาศัยประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ และการลงทุนมูลค่าสูง ความร่วมมือของ 5 พันธมิตรชั้นนำในกลุ่มพลังงานและยานยนต์ครั้งนี้ จึงเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค ทั้งในด้านมาตรฐานระดับสากล และความปลอดภัยสูงสุดที่จะส่งมอบให้กับผู้ใช้บริการในอนาคต

นายปาซานา กาเนซ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า ไดฮัทสุ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด (TDEM) เปิดเผยว่า โตโยต้าเป็นหนึ่งในบริษัทที่ริเริ่มในการกำหนดเป้าหมาย ความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2050 (2593) ด้วยความเชื่อมั่นในแนวทางเทคโนโลยีที่หลากหลาย (multiple pathways) ของเรา โตโยต้ามุ่งมั่นที่จะนำเสนอรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าและเทคโนโลยีสะอาดที่แตกต่างกันเพื่อทำให้การลดคาร์บอนสามารถทำได้ในปริมาณมากและเร็วขึ้น

"เราจะดำเนินตามพันธกิจของเราในการลดคาร์บอนตลอดวัฏจักรผลิตภัณฑ์ของรถยนต์ เราเห็นศักยภาพที่ดีในไฮโดรเจนจากการใช้งานและประโยชน์ที่หลากหลาย ตั้งแต่การผลิตจนถึงการจัดเก็บ การขนส่งไปจนถึงการใช้งานในภาคส่วนต่างๆ" นายกาเนซ กล่าว

ที่มา โตโยต้า