ตลาดรถยนต์เมืองไทยปี 2566 ปิดยอดขายประมาณ 7.75 แสนคัน ลดลง 9% เมื่อ เทียบกับปี 2565 โดยบรรดาค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นยอดร่วงถ้วนหน้า เช่นเดียวกับ ฟอร์ด ค่ายรถอเมริกัน
ในส่วนมาสด้า ทำยอดขายได้ 16,544 คัน ลดลง 47.7% ขณะที่ ซูซูกิ 12,151 ลดลง 39.5% ซึ่งเป็นการหดตัวตามสภาพตลาด และโดน EV จีนแย่งยอดขายไปจำนวนหนึ่ง (EV ปี 2566 ยอดขายประมาณ 80,000 คัน ส่วนยอดจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก 76,366 คัน)
ทั้งนี้ ประธานใหญ่มาสด้า ออกมาระบุชัดว่า ปัญหาเศรษฐกิจ และการมาของ EV จีน มีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ
นายทาดาชิ มิอุระ ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศ ไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปี 2566 เป็นปีแห่งความตึงเครียดทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคม มีปัจจัยรอบด้านที่กระทบต่อผลการดำเนินธุรกิจมาสด้าในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจที่เติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป นโยบายการปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวด มาตรการสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นตัวเร่งให้เกิดการบิดเบือนกลไกตลาด
กระแสรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทย ผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคเร็วขึ้น การเข้ามาทำตลาดของแบรนด์ใหม่ๆ ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น ล้วนส่งผลกระทบโดยตรงกับมาสด้าที่กำลังอยู่ในขั้นตอนของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ และการเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยีที่ใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพสูงอยู่ในปัจจุบัน ไปสู่พลังงานทางเลือกรูปแบบใหม่ๆ
“มาสด้า พร้อมแปรสภาพความเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นให้กลายเป็นความเข้มแข็ง เชื่อว่า พรุ่งนี้จะเป็นวันที่ดีกว่านี้ โดยอุตสาหกรรมรถยนต์รวมปี 2567 จะอยู่ที่ 750,000-800,000 คัน ในส่วนของมาสด้าคาดว่าจะเติบโตเช่นเดียวกัน” นายมิอุระ กล่าวสรุป
สำหรับแผนงานระดับโลก มาสด้าเตรียมเปิดตัว EV หลายรุ่นตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป ซึ่งเมืองไทยมีโอกาสทำตลาดเช่นกัน และตามแผนของ มาสด้า เซลส์ ประเทศ ไทย จะประเดิมกับรถยนต์ไฟฟ้าประเภทไฮบริด ในรุ่น Mazda 2 ก่อน
ในส่วน บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เพิ่งจัดประชุม ดีลเลอร์ แถลงนโยบายภายใต้แผนธุรกิจระยะยาว 7 ปี พร้อมตั้งเป้ายอดขายในปีนี้ 12,000 คัน (ทรงตัวเมื่อเทียบกับปี 2566)
ซูซูกิ ประกาศวิสัยทัศน์การดำเนินธุรกิจในประเทศไทย “Enhancing the Ability to Compete in the Upcoming Automotive Market เพิ่มขีดความสามารถสู่การแข่งขันในอนาคต” ที่ยังหวังความร่วมมือกับดีลเลอร์ เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคว่า ธุรกิจของซูซูกิจะสามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างยั่งยืน
ด้านโปรดักต์ใหม่ เตรียมเปิดตัว Suzuki XL7 ขุมพลังไมลด์ไฮบริด ปลายเดือนมีนาคมนี้ เหนืออื่นใดในงานบางกอก มอเตอร์โชว์ 2024 ซูซูกิจะนำต้นแบบ EV รุ่นใหม่มาจัดแสดง ส่วนการทำตลาดจริง คาดว่าจะเริ่มในปี 2568
นายทาดาโอะมิ ซูซูกิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า แม้ซูซูกิจะต้องเผชิญการแข่งขันใน ตลาดที่ค่อนข้างรุนแรง รวมถึงสภาวะ การหดตัวของตลาด และความเข้มงวดของสถาบันการเงินต่างๆ แต่ยังคงรักษาระดับยอดขายรถยนต์ไว้ในในระดับที่น่าพอใจ โดยทั้งปี 2566 มียอดขาย 12,151 คัน
“ต้องขอขอบคุณผู้จำหน่ายของซูซูกิทุกรายที่ทำงานอย่างหนัก สามารถสร้างความสำเร็จในปีที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี โดยยึดความสำคัญด้านการบริการทั้งก่อนและหลังการขายเป็นที่ตั้ง จนเราสามารถสร้างยอดขายสะสมนับตั้งแต่เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยได้ถึง 320,969 คัน” นายซูซูกิ กล่าว