“คมนาคม” ปลุก “รถโดยสารไฟฟ้า” จ.ภูเก็ต ลุยเปิดให้บริการฟรี 1 ปี

02 มิ.ย. 2567 | 07:57 น.
อัพเดตล่าสุด :02 มิ.ย. 2567 | 08:09 น.

“คมนาคม” ทดสอบรถโดยสารไฟฟ้าสาธารณะเขตเมืองเก่า จ.ภูเก็ต นำร่อง 3 คัน พร้อมให้บริการประชาชน-นักท่องเที่ยวฟรี 1 ปี หวังแก้ปัญหาจราจรติดขัดในเมือง ลดฝุ่น PM2.5

นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการรถโดยสารไฟฟ้าสาธารณะเขตเมืองเก่าภูเก็ต (The Dragon Line) หรือ Smart Bus EV ว่า การเปิดพิธีในครั้งนี้ได้ร่วมทดลองโดยสารรถไฟฟ้าในเส้นทาง เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการอยู่อาศัยและการท่องเที่ยว ลดปัญหาการจราจรติดขัด และมลพิษทางอากาศ 

“คมนาคม” ปลุก “รถโดยสารไฟฟ้า” จ.ภูเก็ต ลุยเปิดให้บริการฟรี 1 ปี

สำหรับโครงการดังกล่าว บริษัท ภูเก็ตพัฒนาเมือง จำกัด ได้ร่วมมือกับมูลนิธิพัฒนาการท่องเที่ยวยั่งยืน ริเริ่มโครงการฯ ตั้งชื่อเส้นทางให้บริการว่า The Dragon Line โดยนำรถโดยสารไฟฟ้า (Smart Bus EV) 22 ที่นั่ง จำนวน 3 คัน มาทดลองให้บริการประชาชนและนักท่องเที่ยวโดยไม่เรียกเก็บค่าโดยสารตลอดระยะเวลา 1 ปี 

 

ส่วนเส้นทางทดลองวิ่งรถในโครงการฯ มี 16 จุด ระยะเวลารถวิ่งโดยรอบประมาณ 15 นาที/รอบ/คัน เริ่มให้บริการตั้งแต่เวลา 11.00 - 22.00 น. ทุกวัน เริ่มออกรถจากจุดถนนพ่อหลวง และรับผู้โดยสารตามจุดต่าง ๆ ดังนี้ จุดที่ 1 ลานมังกร จุดที่ 2 แยกเมืองเก่าชาร์เตอร์ จุดที่ 3 ธนาคารออมสิน จุดที่ 4 จอดฝั่งโรงแรมรอยัลภูเก็ตซิตี้ จุดที่ 5 ตรงข้ามกับ โรงแรมเพิร์ล จุดที่ 6 Mc Donald's จุดที่ 7 วงเวียนสุรินทร์ จุดที่ 8 จุดจอดรถเทศบาลแดงพลาซ่า จุดที่ 9 จอดธนาคารกรุงศรี จุดที่ 10 จอดฝั่ง ธนาคารอิสลาม จุดที่ 11 หน้าพิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว จุดที่ 14 ถนนดีบุก จุดที่ 15 จอดฝั่ง วัดมงคลนิมิตร และจุดที่ 16 ไลม์ไลท์ ภูเก็ต 
 

ทั้งนี้สำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต ได้สนับสนุนส่งเสริมการนำรถโดยสารไฟฟ้ามาให้บริการในจังหวัดภูเก็ตโดยอนุญาตให้นำรถโดยสารไฟฟ้ามาวิ่งให้บริการในเส้นทาง หมวด 4 สายสนามบิน - หาดสุรินทร์ – หาดป่าตอง - หาดราไวย์ จำนวน 8 คัน สายสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดภูเก็ต - หาดป่าตอง จำนวน 6 - 8 คัน (อยู่ระหว่างนำรถเข้าจดทะเบียน) โดยมี บริษัท Phuket Smart Bus จำกัด เป็นผู้ประกอบการขนส่ง 

 

นอกจากนี้ยังมีเส้นทางสายท่าอากาศยานภูเก็ต - ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 - หาดราไวน์ จำนวน 8 - 10 คัน ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการพิจารณาหาผู้ประกอบการขนส่งและยังมีการสนับสนุนให้เปลี่ยนรถโดยสารเป็นรถโดยสารไฟฟ้าในเส้นทางหมวด 1 จำนวน 3 เส้นทาง โดยมีองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตเป็นผู้ประกอบการขนส่ง จำนวน 24 คัน (อยู่ระหว่างการจัดซื้อจัดจ้าง) ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่นำไปสู่การขนส่งสาธารณะที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของจังหวัดภูเก็ตต่อไป

“คมนาคม” ปลุก “รถโดยสารไฟฟ้า” จ.ภูเก็ต ลุยเปิดให้บริการฟรี 1 ปี

นายสรพงศ์ กล่าวต่อว่า ในปัจจุบันพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานสะอาดได้รับความสนใจและถูกนำไปปรับใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อทดแทนการใช้พลังงานปิโตรเลียม โดยเฉพาะในภาคการขนส่งที่ได้ให้ความสำคัญกับการใช้ “ยานยนต์ไฟฟ้า” เพิ่มมากขึ้น ดังนั้นการนำรถโดยสารไฟฟ้ามาให้บริการจะช่วยลดมลพิษอย่าง PM 2.5 บริเวณเมืองเก่าที่เป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญแต่ประสบกับปัญหาการจราจรและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งการให้บริการดังกล่าวยังถือเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมนโยบายที่จะทำให้ประเทศไทยปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero ในอนาคต 
 

ด้านการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะด้วยรถโดยสารไฟฟ้าจึงเป็นการพัฒนาระบบขนส่งที่สอดคล้องกับกระแสธารแห่งเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอันจะทำให้พื้นที่ในจังหวัดภูเก็ตมีสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรและเอื้อต่อการท่องเที่ยว รวมถึงอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวในพื้นที่ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตได้เป็นอย่างดี 

“คมนาคม” ปลุก “รถโดยสารไฟฟ้า” จ.ภูเก็ต ลุยเปิดให้บริการฟรี 1 ปี

ขณะเดียวกันกระทรวงคมนาคมเล็งเห็นถึงความตั้งใจของภาคส่วนต่าง ๆ ในจังหวัดภูเก็ตที่ได้ร่วมกันส่งเสริมและขับเคลื่อนการให้บริการรถไฟฟ้าในพื้นที่เขตเมืองเก่า ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน แนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยว การกระตุ้นเศรษฐกิจ รักษาสิ่งแวดล้อมในจังหวัด และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการให้บริการรถโดยสารไฟฟ้าสาธารณะภายใต้โครงการนี้จะสอดคล้องกับมาตรฐานและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสาธารณะ และเป็นต้นแบบขยายไปยังเส้นทางพื้นที่อื่น ๆ เพื่อส่งมอบสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นให้แก่ชุมชน

 

“เชื่อมั่นว่าจังหวัดภูเก็ตจะเป็นจังหวัดหนึ่งที่ประสบความสำเร็จในการริเริ่มการให้บริการระบบขนส่งสาธารณะที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและแก้ไขปัญหาการคมนาคมขนส่งภายในจังหวัดได้อย่างเป็นรูปธรรม และเป็นจังหวัดตัวอย่าง ในการพัฒนาได้อย่างยั่งยืนต่อไป”