WHO เตือนโควิดปลิดชีวิตประชาชนสหรัฐ-ยุโรปได้อีกกว่า 300,000 รายก่อน 1 ธ.ค.

30 ส.ค. 2564 | 17:06 น.
อัปเดตล่าสุด :31 ส.ค. 2564 | 00:27 น.

องค์การอนามัยโลกออกโรงเตือน จนถึงปลายปีนี้โควิดยังไม่แผ่ว ตัวเลขประมาณการพบสหรัฐ-ยุโรป ยอดตายยังพุ่งได้อีก 3 แสนก่อน 1 ธ.ค. โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกัน ขณะที่ศรีลังกาตรวจพบสายพันธุ์ใหม่ “ซูเปอร์ เดลตา”อาละวาด

องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกโรงเตือนวานนี้ (30 ส.ค.) ว่า ภูมิภาคยุโรปจะมี ผู้เสียชีวิตรายใหม่จากไวรัสโควิด-19 จำนวน 236,000 รายภายในวันที่ 1 ธ.ค.นี้

 

ดร. ฮันส์ คลูจ ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคยุโรปของ WHO เปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ยุโรปมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพิ่มขึ้นในอัตรา 11% และจากตัวเลขประมาณการที่เชื่อถือได้บ่งชี้ว่า ยุโรปจะมีผู้เสียชีวิตรายใหม่ถึง 236,000 รายภายในวันที่ 1 ธ.ค.ที่จะถึงนี้

  ดร. ฮันส์ คลูจ ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคยุโรปของ WHO

สถิติล่าสุดชี้ว่า ปัจจุบัน ยุโรปมีผู้เสียชีวิตสะสมจากการติดเชื้อโควิด-19 จำนวนประมาณ 1.3 ล้านราย

 

หันมาที่สหรัฐอเมริกา นายแพทย์แอนโทนี เฟาชี แพทย์ใหญ่ประจำคณะทำงานด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาว และผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติ (NIAID) กล่าวว่า สหรัฐจะมีผู้เสียชีวิตรายใหม่จากไวรัสโควิด-19 จำนวน 100,000 รายภายในวันที่ 1 ธ.ค. โดยส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ซึ่งขณะนี้มีอยู่จำนวน 80 ล้านคนในสหรัฐ

ค่าเฉลี่ยของผู้ที่เสียชีวิตจากโควิด-19 สูงกว่า 1,000 รายต่อวันในสหรัฐอเมริกา

ค่าเฉลี่ย 7 วันของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในสหรัฐอเมริกา อยู่ที่ระดับ 156,886 รายเมื่อวันที่ 29 ส.ค. ขณะที่ค่าเฉลี่ยของผู้ที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลอยู่สูงกว่าระดับ 100,000 ราย และค่าเฉลี่ยของผู้ที่เสียชีวิตจากโควิด-19 สูงกว่า 1,000 รายต่อวัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.เป็นต้นมา โดยสหรัฐยังคงเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตรายใหม่ (จากโควิด) มากที่สุดในโลก

 

ทั้งนี้ ไวรัสโควิด-19 คร่าชีวิตประชาชนทั่วโลกแล้วมากกว่า 4,500,000 คน นับตั้งแต่ที่ WHO ได้รับแจ้งอย่างเป็นทางการว่า มีการพบผู้ป่วยที่มีอาการปอดอักเสบรุนแรงจำนวนมากในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ประเทศจีนในช่วงต้นเดือน ธ.ค.2562 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่โลกได้รับรู้เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งแรก ๆผู้คนพากันเรียกว่า “ไวรัสอู่ฮั่น”  

 

ข้อมูลล่าสุดจาก Worldometer เว็บไซต์ที่เก็บข้อมูลสถิติโควิด-19 จากสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกสะสมมีจำนวน 217,391,620 ราย และยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 4,518,434 ราย

 

ข้อมูลยังชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มว่า ขณะนี้ (เดือน ส.ค.) มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 จากทั่วโลกทุกวันราว 10,000 ราย ซึ่งสูงกว่าจำนวน 7,800 รายซึ่งเป็นสถิติในเดือนก.ค. แต่ก็ต่ำกว่าระดับ 14,800 รายซึ่งเป็นสถิติของเดือนม.ค.2564

 

สถิติสะท้อนให้เห็นว่า ไวรัสโควิด-19 ได้คร่าชีวิตประชาชนทั่วโลกในปีนี้ (2564) มากกว่าในปี 2563 โดยมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 2.6 ล้านคนในช่วงเดือนม.ค.-ส.ค. 2564 เทียบกับจำนวนผู้เสียชีวิตไม่ถึง 1.9 ล้านคนตลอดทั้งปี 2563

 

ทั้งนี้ สหรัฐอเมริกายังคงครองแชมป์อันดับ 1 ของโลกทั้งในแง่จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิตจากโรคระบาดดังกล่าว โดยสหรัฐมีผู้ติดเชื้อสะสม 39,665,515 ราย และเสียชีวิต 654,689 ราย ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตา

 

ที่น่ากังวลยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ขณะที่โลกกำลังพยายามฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 แต่ไวรัสดังกล่าวก็มีการกลายพันธุ์ไปเรื่อย ๆ ทำให้เป็นที่หวั่นวิตกกันว่า ไวรัสกลายพันธุ์อาจสามารถฝ่าแนวป้องกันของวัคซีนที่โลกมีอยู่ในปัจจุบัน ข้อมูลล่าสุดยังชี้ว่า ที่ประเทศศรีลังกา มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เกือบ 60,000 รายในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา  ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าไวรัสสายพันธุ์เดลตากำลัง "แพร่ระบาดเหมือนไฟป่า" ในกรุงโคลอมโบ ประเทศศรีลังกา และมีความเสี่ยงที่จะลุกลามออกไปยังส่วนอื่นของประเทศ ขณะที่สายพันธุ์ใหม่ที่กำลังมีการแพร่ระบาดในประเทศ ที่เรียกว่า "ซูเปอร์ เดลตา" ยังต้องมีการศึกษามากขึ้นในเรื่องนี้