วันที่ 6 ตุลาคม 256 "ฐานเศรษฐกิจ" เกาะติดความคืบหน้าเหตุกราดยิงศูนย์เด็กเล็ก ตำบลอุทัยสวรรค อำเภอนากลาง หนองบัวลำภู ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 30 ราย และบาดเจ็บจำนวนมาก
โดยมีข้อมูลจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ระบุสาเหตุจากการก่อเหตุอาจจะมาจากการที่มือกราดยิงหนองบัวลำภู" คือ ส.ต.อ.ปัญญา คําราบ ถูกไล่ออกจากราชการ
โดยข้อมูลจาก สตช. เปิดเผยคําสั่ง "ตํารวจภูธรจังหวัดหนองบัวลําภู" ซึ่งเป็นคำสั่งไล่ออก "มือกราดยิงหนองบัวลำภู" คือ ส.ต.อ.ปัญญา คําราบ ให้ออกจากราชการ หลังมีคดีอาญา ข้อหา “มียาเสพติดไว้ในครอบครอง" โดยเนื้อหาระบุว่า
คําสั่ง ตํารวจภูธรจังหวัดหนองบัวลําภู ที่ 392/2565 เรื่อง ลงโทษไล่ออกจากราชการ
ด้วย สิบตํารวจเอก ปัญญา คําราบ ตําแหน่ง ผู้บังคับหมู่ (งานป้องกันและปราบปราม) สถานี ตํารวจภูธรนาวัง มีกรณี ถูกกล่าวหาว่ากระทําผิดวินัยอย่างร้ายแรง ตามคําสั่งตํารวจภูธรจังหวัดหนองบัวลําภู ลงวันที่ 20 มกราคม 2565 แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน และคําสั่ง ตํารวจภูธรจังหวัด หนองบัวลําภู ลงวันที่ 20 มกราคม 2565 เรื่อง ให้ข้าราชการตํารวจออกจากราชการไว้ก่อน
ผลการสอบสวนรับฟังได้ว่า สิบตํารวจเอก ปัญญา คําราบ กระทําผิดวินัยอย่างร้ายแรง กรณีต้องหาคดีอาญา ข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย” กระทํา การอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง และกระทําหรือละเว้นการกระทําใดๆ รวมทั้งการกระทําผิดตาม มาตรา ๗๔(๑) อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง ตามความในมาตรา ๗๙ (๕) และ (๖) แห่ง พระราชบัญญัติตํารวจแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๗ ประกอบกับ ระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการป้องกัน เจ้าหน้าที่ของรัฐมิให้เกี่ยวข้องยาเสพติด พ.ศ.๒๕๔๒ โดยมีพฤติการณ์กระทําความผิด ดังนี้
เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2565 เวลาประมาณ 13.35 น. สถานที่เกิดเหตุ บ้านพัก ข้าราชการตํารวจเลขที่ 219/17 หมู่ที่ 13 ตําบลนาเหล่า อําเภอนาวัง จังหวัดหนองบัวลําภู เจ้าหน้าที่ตํารวจ กองกํากับการสืบสวน ตํารวจภูธรจังหวัดหนองบัวลําภู ได้รับแจ้งจากสายลับ ( ซึ่งประสงค์ขอรับเงินสินบน นําจับ )
ว่ามีข้าราชการตํารวจชื่อ ปัญญา หรือ แมน เป็นข้าราชการตํารวจสังกัดสถานีตํารวจภูธรนาวัง จังหวัด หนองบัวลําภู มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและมีพฤติกรรมการดื่มสุราแล้วก่อความเดือดร้อนรําคาญ ให้กับบุคคลอื่น
จากนั้นได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ซึ่ง ร้อยตํารวจเอก ประจวบ ศรีชัยโย รองสารวัตร กองกํากับการสืบสวน ตํารวจภูธรจังหวัดหนองบัวลําภู พร้อมชุดจับกุม ได้เดินทางมาตรวจสอบบุคคลดังกล่าว ทราบชื่อ สิบตํารวจเอก ปัญญา คําราบ อายุ 33 ปี ตําแหน่ง ผู้บังคับหมู่ (งานป้องกันและปราบปราม) สถานี ตํารวจภูธรนาวัง ที่อยู่ 115/1 หมู่ที่ 6 ตําบลท่าอุทัย อําเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลําภู
เมื่อเดินทาง มาถึงสถานีตํารวจภูธรนาวัง จึงได้เชิญตัว สิบตํารวจเอก ปัญญาฯ หรือแมน มาสอบถาม สิบตํารวจเอก ปัญญาฯ ยอมรับว่าตนเองเคยเสพยาเสพติดจริง (ยาบ้าและยาไอซ์ ) เพราะมีเหตุอันควรสงสัยตามสมควรว่า
จะมียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ภายในบริเวณบ้านพักของ สิบตํารวจเอก ปัญญาฯ เจ้าพนักงานจึงได้ขอตรวจค้น บ้านพักของ สิบตํารวจ เอกปัญญาฯ ก่อนการตรวจค้นเจ้าพนักงานได้แสดงความบริสุทธิ์ใจให้ สิบตํารวจเอก ปัญญาฯ ดูจนเป็นที่พอใจแล้ว และยินยอมให้ตรวจค้น
ผลการตรวจค้นบริเวณห้องพักพบยาบ้า ลักษณะรูปทรง กลม แบน ด้านหนึ่งเรียบ เม็ดสีแดงจํานวน 1 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในกล่องพลาสติกใสวางอยู่บนตู้กับข้าวใน ห้องพักของ สิบตํารวจเอก ปัญญาฯ เจ้าพนักงานตํารวจจึงสอบถาม สิบตํารวจเอก ปัญญาฯ ว่ายาบ้าดังกล่าว เป็นของใคร สิบตํารวจเอก ปัญญาฯ ให้การว่า เป็นของตนจริง
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตํารวจจึงได้จับกุมและได้แจ้ง สิทธิ และข้อกล่าวหาให้ สิบตํารวจเอก ปัญญาฯ ทราบว่า “มียาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้าหรือเมทแอม เฟตามีน) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย” จากนั้น ได้ควบคุมตัว สิบตํารวจเอก ปัญญาฯ ไปที่ห้องปฏิบัติการ สืบสวนสถานีตํารวจภูธรนาวัง เพื่อตรวจสอบหาสารเมทแอมเฟตามีน เบื้องต้นมีผลเป็นลบ
เจ้าพนักงานตํารวจ ชุดจับกุมจึงควบคุมตัว สิบตํารวจเอก ปัญญาฯ พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดําเนินคดีตามกฎหมาย คดีอยู่ระหว่างพิจารณาของศาลจังหวัดหนองบัวลําภู และคณะกรรมการสอบสวน มีมติเป็นเอกฉันท์ ว่า พฤติการณ์ของ สิบตํารวจเอก ปัญญา คําราบ ผู้ถูกกล่าวหา มีมูลเป็นการกระทําผิดวินัยอย่างร้ายแรง กระทําผิดวินัยอย่างร้ายแรง กรณีต้องหาคดีอาญาข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟ ตามีน) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย” กระทําการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง และกระทํา หรือละเว้นการกระทําใดๆ
รวมทั้งการกระทําผิดตามมาตรา ๗๔(๑) อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่าง ร้ายแรง ตามความในมาตรา ๗๕ (๕) และ (๖) แห่งพระราชบัญญัติตํารวจแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๗ ประกอบกับ ระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการป้องกันเจ้าหน้าที่ของรัฐมิให้เกี่ยวข้องยาเสพติด พ.ศ.๒๕๔๒ กรณี ผู้บังคับบัญชาสืบสวนพบหรือตรวจพบว่ากระทําความผิดฐานมียาเสพติดไว้ในครอบครองและถูกจับกุมตัว คณะกรรมการสอบสวน จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ ว่าการกระทําของผู้ถูกกล่าวหาเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ตามแนวทางการลงโทษวินัยอย่างร้ายแรง เห็นควรลงโทษ “ไล่ออก” สิบตํารวจเอก ปัญญา คําราบ
คณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองการพิจารณาสั่งลงโทษ ตํารวจภูธรจังหวัดหนองบัวลําภู ในการประชุม ครั้งที่ ๑/๒๕๖๕ เมื่อวันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๖๕ คณะกรรมการฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ว่า สิบตํารวจเอก ปัญญา คําราบ กระทําผิดวินัยอย่างร้ายแรง จึงเห็นชอบตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการ สอบสวน ลงโทษ ไล่ สิบตํารวจเอก ปัญญา คําราบ ออกจากราชการ โดยไม่มีเหตุอันควรลดหย่อนโทษให้
ฉะนั้น อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๗๒ และมาตรา ๙๐ แห่งพระราชบัญญัติตํารวจ แห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๗ จึงให้ลงโทษไล่ สิบตํารวจเอก ปัญญา คําราบ ออกจากราชการ ทั้งนี้ ให้มีผลย้อนหลัง ไปตั้งแต่วันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๖๕ วันที่ถูกสั่งให้ออกจากราชการมีผลบังคับ ตามระเบียบ ก.ตร.ว่าด้วยวันออก จากราชการของข้าราชการตํารวจ พ.ศ.๒๕๔๗ ลงวันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ข้อ 5 (5)
อนึ่ง หากผู้ถูกลงโทษประสงค์จะอุทธรณ์คําสั่งนี้ ให้ยื่นอุทธรณ์ต่อ ก.ตร. ภายใน 30 วัน นับแต่วันรับทราบคําสั่ง และหากประสงค์จะฟ้องโต้แย้งคําสั่งหรือคําวินิจฉัยอุทธรณ์นี้ ให้ทําคําฟ้องเป็นหนังสือ ยื่นต่อศาลปกครองหรือส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนไปยังศาลปกครองภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งหรือ รับทราบคําวินิจฉัยอุทธรณ์ หรือภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งหรือหรือรับทราบคําวินิจฉัยอุทธรณ์ หรือภายใน 90 วัน นับแต่วันพ้นกําหนด 90 วัน นับแต่วันที่ผู้ฟ้องคดีได้มีหนังสือร้องขอทราบผลการวินิจฉัย อุทธรณ์
สั่ง ณ วันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2565 ลงนามโดย พลตํารวจตรี กิตติศักดิ์ จํารัสประเสริฐ ผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัดหนองบัวลําภู