วันนี้(28 พ.ย.65ท) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเอกฉันท์ตีตกข้อกล่าวหา นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทช.) กรณีถูกกล่าวหาว่า ใช้อำนาจโดยมิชอบเพื่อให้บุตรสาวได้รับทุนการศึกษาของสำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ประจำปี พ.ศ. 2553 (ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย) ตั้งแต่ระดับปริญญาตรีจนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท ณ ต่างประเทศ
โดยป.ป.ช.พิจารณาแล้ว เห็นว่า ทุนการศึกษาของสำนักงาน กทช. ประจำปี 2553 (ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย) ที่มีการกำหนดลักษณะทุน ที่ให้และวิธีสรรหาใหม่โดยใช้วิธีการสัมภาษณ์จากรายชื่อผู้ที่สอบผ่านข้อเขียนของนักเรียนทุนเล่าเรียนหลวงมาแล้ว เป็นการดำเนินการตามมติของ กทช. ตามที่รองศาสตราจารย์ สุธรรม อยู่ในธรรม กรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เสนอ และไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ มีส่วนเกี่ยวข้องในขั้นตอนการเสนอการกำหนดลักษณะทุน และวิธีการสรรหาใหม่ แต่อย่างใด
นอกจากนี้ ทุนการศึกษาของสำนักงาน กทช.ที่ผ่านมา ก็ไม่มีข้อห้ามบุตรเจ้าหน้าที่สำนักงาน กทช. เข้ารับทุน ดังนั้นการกำหนดลักษณะทุนที่ให้และวิธีสรรหาใหม่ ดังกล่าว จึงมิได้เป็นการวางแผนล่วงหน้า เพื่อล็อกสเปกให้แก่บุตรสาวของนายฐากร โดยเฉพาะ
และนายฐากร มิได้เป็นผู้สั่งให้เลื่อนวันสอบเพื่อรับทุนการศึกษาของสำนักงาน กทช. จากวันที่ 25 ก.พ. 2553 เป็นวันที่ 26 ก.พ.53 อีกทั้งการเลื่อนวันสอบสัมภาษณ์ดังกล่าวยังเป็นประโยชน์รวมถึงผู้สมัครสอบรายอื่น ๆ ทั้งหมดด้วย
ประกอบกับกรณีการคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนการศึกษาของสำนักงาน กทช. ประจำปี 2553 เคยมีการร้องเรียนไปยังผู้ตรวจการแผ่นดิน และผู้ตรวจการแผ่นดินได้มีการพิจารณาสอบสวนหาข้อเท็จจริงแล้ว เห็นว่าการให้ทุนการศึกษาตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ประจำปี 2553 เป็นไปโดยชอบแล้วให้ยุติเรื่องร้องเรียนดังกล่าว
ดังนั้น ที่ประชุมของคณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนนเสียง 7 เสียง เห็นชอบตามความเห็นของคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้นว่า จากการไต่สวนเบื้องต้นไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่จะฟังได้ว่า นายฐากร ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป