21 ธ.ค.2565 - นพ. พิเชฐ ผนึกทอง ผู้อำนวยการงานคุณภาพ และ ผู้ช่วยผู้อำนวยการบริหาร สายงานการตลาด โรงพยาบาลไทยนครินทร์ ระบุ ถึงเทรนด์นวัตกรรมทางการแพทย์ กับอนาคต 'เมดิคัลฮับ' ของไทย ในเวทีเสวนา :INNOVATION DRIVING THE FUTURE งานสัมนา NEXT STEP THAILAND 2023: ทิศทางแห่งอนาคต ที่จัดโดยสื่อเครือเนชั่นกรุ๊ป ว่า สำหรับ ธุรกิจการแพทย์ หรือ เฮลแคร์ของไทยนั้น ก่อนหน้าถูกดิสรัปชั่นด้วยบทบาทของนวัตกรรม-เทคโนโลยีมาสักพักหนึ่งแล้ว แต่การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วง 2-3ปีที่ผ่านมา นับเป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้ธุรกิจนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน ก่อให้เกิด 5 เทรนด์สำคัญ ดังนี้
สำหรับประโยชน์ต่อการนำนวัตกรรมมาใช้ในทางการแพทย์นั้น นพ. พิเชฐ กล่าวว่า จุดเปลี่ยนสำคัญ คือ จะทำให้การรักษาผู้ป่วยมีคุณภาพมากขึ้นทุกขั้นตอน เนื่องจากเป็นการเพิ่มความปลอดภัย จากเริ่มแรกที่นวัตกรรมช่วยให้การวินิจฉัยโรคมีความแม่นยำมากขึ้น ก็จะนำมาซึ่งการรักษาที่ถูกต้องมากขึ้น
อย่างบางกรณี ช่วยลดผลเสียที่เกิดขึ้นแบบในอดีตได้ เช่น เดิมการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง แพทย์มีความจำเป็นต้องใช้วิธีการ ฉายแสงทั่วร่าง แต่ปัจจุบัน สามารถวินิจฉัยและพุ่งเป้าการฉายแสงไปที่เซลล์มะเร็งโดยตรงได้เลย และตัวอย่างของประโยชน์ที่เห็นชัดเจนสุด ก็คือ การตรวจรักษา ผู้ป่วยโควิด19 จำนวนมหาศาลในช่วงที่ผ่านมา ลดกระบวนการการตรวจเอ็กซเรย์วินิจฉัยโรคอย่างในอดีต ที่ทำได้ยากและมีความล่าช้า
ขณะเดียวกัน ประโยชน์ของนวัตกรรม ช่วยในแง่เก็บข้อมูล เพื่อวางแผนการรักษาโรคอย่างต่อเนื่อง ลดระยะเวลาและขั้นตอนทางการแพทย์
ประเด็นสำคัญที่จะเกิดประโยชน์กับสังคมไทยสูงสุด นพ. พิเชฐ กล่าวว่า ขณะนี้ปฎิเสธไม่ได้ ว่าประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัว ซึ่งคนไทยมีความจำเป็นต้องเตรียมตัว เนื่องจาก ข้อมูลทางสถิติ บ่งชี้ชัดขึ้นว่า โรคร้ายต่างๆ ที่มีความน่ากลัวมากขึ้น เช่น โรคมะเร็ง มีอัตราป่วยมากขึ้นในคนไทย ซึ่งมาจากแนวโน้มการสัมผัสสารก่อมะเร็งมากขึ้น กับ อีกส่วน คือ มาจากกรรมพันธุ์
ซึ่งนวัตกรรมจะเข้ามาช่วยตรวจคัดกรองความเสี่ยงทั้ง 2 ส่วนดังกล่าวได้ เพื่อนำไปสู่การป้องกัน หลีกเลี่ยง หรือ ดูแลรักษาแต่เนิ่นๆ ขณะในขั้นตอนการรักษา อดีตต้องใช้การฉายแสงเท่านั้น แต่ปัจจุบัน รักษาพุ่งเป้าได้ และ การผ่าตัดที่แผลเล็กลง ล้วนเป็นประโยชน์ของนวัตกรรมแทบทั้งสิ้น
อีกทั้ง นวัตกรรมทางการแพทย์ จะช่วยค้นหาความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นตามความเสื่อมของอายุขัยในวัยต่างๆได้ด้วย ถือเป็นการยกระดับวงการแพทย์ไทย และ จะช่วยให้ไทยไปสู่เป้าหมาย เมดิคัลฮับได้ไม่ยากในอนาคต
"ทุก ร.พ. ไม่อยากรักษาโรค แต่อยากให้คนไทยสุขภาพดีมากกว่า สุขภาพ คือ ทรัพยากรที่มีค่าที่สุด รพ.อยากเป็นส่วนร่วมในการดูแล ตั้งแต่ ป้องกัน -วินิจฉัย และ รักษาอย่างมีประสิทธิภาพ อยากให้ภาครัฐและภาคเอกชน ร่วมกัน โดยใช้จุดเปลี่ยนเรื่องนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาช่วยยกระดับ "