เล่นน้ำ "สงกรานต์" ถ.ข้าวสาร กทม. ปรับแผน เข้า-ออก ทางเดียว

14 เมษายน 2566 - เรียกได้ว่า ยังคงเป็นสถานที่เล่นน้ำวันสงกรานต์ ฮอตฮิต สำหรับ ถนนข้าวสาร กทม. แหล่งรวมนักท่องเที่ยวคนไทยและคนต่างชาติ ที่ยิ่งแดดร่ม ลมตก คนก็ทยอยหลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เกิดความหนาแน่น และ แออัดของพื้นที่ กลายเป็นความเป็นห่วง กังวล ว่ายามเกิดเหตุฉุกเฉิน จะดูแล ควบคุม ช่วยเหลือได้ยาก 

แผนงาน สงกรานต์ถนนข้าวสาร ล่าสุด 

โดยล่าสุด กทม. ได้มีการลงพื้นที่ และ ประชุมแผนเพิ่มเติม ประกาศกำหนดเส้นทางเล่นน้ำ ถ.ข้าวสาร เข้า-ออกทางเดียว พร้อมขอความร่วมมือผู้ประกอบการนำแผงเหล็กออก ไม่ตั้งแผงค้ากีดขวาง เพื่อเตรียมพร้อมรับเหตุฉุกเฉิน

พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ระบถุถึงแผนดูแลความเรียบร้อย บริเวณ พื้นที่ถนนข้าวสาร เขตพระนคร วันนี้ ว่า สิ่งที่ต้องคำนึงสูงสุดคือเรื่องของความปลอดภัย เรื่องของแผงลอยก็เป็นเรื่องที่รองที่ลงมา ตามที่ได้ติดตามพบว่าเส้นทางการเดินยังเป็นแบบสวนทาง รวมถึงบางคนอยากจะเดินในขณะที่บางคนอยากจะหยุดร่วมกับปัญหาแผงเหล็กที่ร้านค้ายื่นออกมา ทำให้เกิดลักษณะของคอขวด เกิดการจราจรติดขัด 

จากการประชุมหารือร่วมกับเขตพื้นที่และสมาคมผู้ประกอบการถนนข้าวสารในวันนี้ก็เป็นประเด็นเรื่องของแผงเหล็กและร้านค้า ซึ่งคาดว่าตำรวจ เทศกิจ และผู้จัดงานจะสามารถจัดการเรื่องของแผงเหล็กร้านค้า และหาบเร่แผงลอยได้

“แผงเหล็กเป็นของร้านค้าที่ตั้งขึ้นเพื่อแสดงเขตพื้นที่ของแต่ละร้าน หากเกิดเหตุฉุกเฉินจะลำบากในการเคลื่อนย้ายคน  ท่านรองปลัดฯ สุขสันต์ ได้สั่งการให้นำรถมอเตอร์ไซค์ Motorlance (รถจักรยานยนต์ฉุกเฉินทางการแพทย์) มาประจำด้านใน เพื่อนำทางผู้ป่วยออกมายังรถพยาบาลด้านนอกได้สะดวกขึ้น” 

ถนนข้าวสาร เข้า-ออกทางเดียว

นอกจากนี้จะต้องให้ความสำคัญกับเรื่องของป้ายทางออกฉุกเฉิน ทั้งนี้ ผบ.ตร.ได้สั่งการเสริมกำลังเจ้าหน้าที่อคฝ. (กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน) มาอีก 1 กองร้อย ซึ่งวันนี้จะมีการจัดการจราจรให้เข้าทางเดียวคือถนนจักรพงษ์  และออกทางถนนตะนาว โดยมีทางออกฉุกเฉิน 4 เส้นทาง

ด้าน นายสุขสันต์ กิตติศุภกร รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงข้อร้องเรียนการเรียกรับค่าแผงค้า ว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่เทศกิจ และเจ้าหน้าที่ภาครัฐไม่ได้มีส่วนรู้เห็น แต่จะเป็นเรื่องของภาคเอกชนเรียกเก็บกันเองหรือไม่ก็ไม่ทราบ ซึ่งจะสอบสวนเทศกิจอีกครั้ง หากมีเบาะแสจะดำเนินการอย่างเข้มข้น หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ภาครัฐเกี่ยวข้องจะส่งเรื่องให้ปปง. (สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน) ดำเนินการ ในส่วนของการเรียกเก็บค่าที่จอดรถจักรยานยนต์โดยรอบ และแจ้งว่าเป็นการเก็บให้เทศกิจ ก็ยืนยันว่าเทศกิจไม่ได้มีส่วนรู้เห็น หากพบเบาะแสขอให้แจ้งได้ทางสายด่วนกทม. 1555 หรือ Traffy Fondue ซึ่งกทม.จะดำเนินการอย่างเข้มข้นต่อไป