เป็นหนี้นอกระบบ หาทางออกไม่ได้ มาทางนี้ DSI เปิดศูนย์ช่วยเหลือ

ปัญหาหนี้นอกระบบถือเป็นอย่างหนึ่งของสังคมไทย โดยข้อมูลจากสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ ระบุถึงอันตรายที่เกิดจากหนี้นอกระบบว่า มักนำไปสู่อันตรายในชีวิตและทรัพย์สินของลูกหนี้ เนื่องจากถูกทวงหนี้โดยใช้ความรุนแรง และลูกหนี้ยังอาจเผชิญปัญหาการทำสัญญากู้ยืมที่อำพรางดอกเบี้ยในอัตราที่สูงกว่าที่กฎหมายกำหนด (15% ต่อปี)

งานวิจัยของ Pinitjitsamut & Suwanprasert (2022) ซึ่งศึกษาสถานการณ์หนี้นอกระบบในกลุ่มที่ได้รับความช่วยเหลือ โดยใช้ข้อมูลสำรวจระดับรายครัวเรือนที่ได้รับจากศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม ในปี พ.ศ. 2557 พบว่า

โดยเฉลี่ยแล้ว ลูกหนี้มีหนี้นอกระบบอยู่ที่ 54,300 บาทต่อคน โดยเจ้าหนี้ส่วนมาก คือนายทุนนอกพื้นที่ (31%) แก๊งหมวกกันน็อค (30%) และนายทุนในพื้นที่ (27%) และสาเหตุของการกู้หนี้นอกระบบ ถูกนำมาใช้เพื่อค่าใช้จ่ายจำเป็น 46.8% อีก 41.5% ถูกนำไปลงทุนในการประกอบอาชีพ มีเพียง 9.4% ของหนี้นอกระบบเท่านั้นที่ถูกกู้มาเพื่อใช้จ่ายหนี้อื่น ๆ และเพียง 2.3% ที่ถูกนำมาใช้สำหรับค่าใช้จ่ายไม่จำเป็น

ล่าสุด กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เปิด "ศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้ และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ" เพื่อช่วยเหลือประชาชน ที่ประสบปัญหาหนี้สินที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการชำระหนี้ 

โดยสามารถติดต่อศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม Callcenter 02 - 5753344 หรือสายด่วน 1202 ต่อ 53610 ในวันและเวลาราชการ แต่หากติดต่อนอกเวลาทำการจะมีระบบอัตโนมัติแจ้งว่าอยู่นอกเวลาทำการ และให้ประชาชนโทรขอรับคำปรึกษาในวันและเวลาราชการต่อไป  

ทั้งนี้เมื่อเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษากับประชาชนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จะขอข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนที่ขอรับคำปรึกษาเพื่อเก็บเป็นข้อมูลของศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม  

โดยเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ "ศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม" จะต้องกดหมายเลขที่ต้องการเพื่อให้ระบบโอนสายมาอย่างเจ้าหน้าทีโดย กด1 แจ้งเรื่องหนี้นอกระบบ หรือในระบบ กด2 แจ้งเรื่องที่ดิน และทรัพยากรธรรมชาติ กด3 เพื่อแจ้งเบาะแส กด4 เพื่อรับฟังข้อมูลอัตโนมัติ กด5 เพื่อส่งข้อมูลทางโทรสาร และ กด0 หากต้องการสอบถามข้อมูลทั่วไปหรือติดต่อเจ้าหน้าที่

ที่มา : สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ , กรมสอบสวนคดีพิเศษ