นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า ช่วงระหว่างวันที่ 22-25 ธันวาคม จะมีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงจากประเทศจีนตอนล่างเคลื่อนผ่านอ่าวไทยพัดปกคลุมภาคใต้ตอนล่างและประเทศมาเลเซีย จะทำให้ภาคใต้ตอนล่างและภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ โดยอาจจะเกิดน้ำป่าไหลหลากได้ช่วงวันที่ 22-26 ธันวาคม โดยเฉพาะใน จ.นราธิวาส และปัตตานี
ขณะเดียวกันยังได้ปรับแผนการระบายน้ำจากเขื่อนบางลาง จ.ยะลา ด้วยการให้ระบายเพิ่มขึ้นจากวันละ 10 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นวันละ 14 ล้านลูกบาศก์เมตรเพื่อรองรับปริมาณน้ำฝนที่จะไหลลงอ่างเก็บน้ำ
รวมทั้งป้องกันไม่ให้กระทบพื้นที่ท้ายเขื่อนปัตตานีและให้เฝ้าระวังระดับน้ำในแม่น้ำต่าง ๆ ที่เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลับและล้นตลิ่งซึ่งที่ผ่านมาได้ออกประกาศเตรียมอพยพใน 8 หมู่บ้านและเตรียมพร้อมใน 10 หมู่บ้านแล้ว โดย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ดังกล่าวพร้อมกำชับให้ สทนช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์ต่อเนื่องและเตรียมพร้อมรับมือหากเกิดภาวะวิกฤติ
ทั้งนี้ วันที่ 28 ธันวาคมนี้ รองนายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่ จ.ปัตตานีและยะลาติดตามสถานการณ์น้ำ พร้อมมอบถุงยังชีพเยียวยาให้กับผู้ประสบอุทกภัยและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่ด้วย
สำหรับสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ภาคใต้ พบมีอ่างเก็บน้ำขนาดกลางที่มีปริมาณน้ำเต็มความจุแล้ว 5 แห่ง คือ อ่างเก็บน้ำคลองหยา อ่างเก็บน้ำคลองแห้ง อ่างเก็บน้ำคลองกะทูน อ่างเก็บน้ำคลองดินแดง และอ่างเก็บหัวช้าง
ส่วนอ่างเก็บน้ำอีก 14 แห่งพบมีปริมาณน้ำอยู่ในระดับร้อยละ 80 - 100 ที่ยังต้องเฝ้าระวัง เช่น อ่างเก็บน้ำหาดส้มแป้น อ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใส จึงกำชับให้วางแผนบริหารจัดการน้ำอย่างระมัดระวัง เพื่อให้เกิดผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายอ่างเก็บน้ำให้น้อยที่สุด