กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายอากาศรายภาค (พยากรณ์อากาศล่วงหน้า) ระหว่างวันที่ 20 – 26 ธันวาคม พ.ศ. 2566
กรุงเทพและปริมณฑล
วันที่ 21 – 25 ธ.ค. 66
- อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลงอีก 3 - 5 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18 – 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม.
วันที่ 26 ธ.ค. 66
- อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 25 กม./ชม.
ภาคเหนือ
วันที่ 21 – 25 ธ.ค. 66
- อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลงอีก 4 - 6 องศาเซลเซียสอุณหภูมิต่ำสุด 10 – 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 24 – 32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด กับมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 3 - 10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม.
วันที่ 26 ธ.ค. 66
- อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11 – 19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25 – 31 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด กับมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 4 - 10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
วันที่ 20 - 25 ธ.ค. 66
- อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลงอีก 5 – 8 องศาเซลเซียสอุณหภูมิต่ำสุด 9 – 18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26 – 31 องศาเซลเซียสบริเวณยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6 - 12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม.
วันที่ 26 ธ.ค. 66
- อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรงอุณหภูมิต่ำสุด 11 – 18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 31 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 8 - 13 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม.
ภาคกลาง
วันที่ 21 – 25 ธ.ค. 66
- อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้ากับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 3 - 5 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 15 – 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26 – 32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม.
วันที่ 26 ธ.ค. 66
- อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 17 – 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 25 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
วันที่ 21 – 25 ธ.ค. 66
- อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลงอีก 3 - 5 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17 – 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
วันที่ 26 ธ.ค. 66
- อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 19 – 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
วันที่ 20 - 21 ธ.ค. 66
- ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 – 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
วันที่ 22 - 25 ธ.ค. 66
- ตอนบนของภาค: อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 19 – 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 30 องศาเซลเซียส
- ตอนล่างของภาค: มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 – 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในช่วงวันที่ 23 – 25 ธ.ค. 66 อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 - 45 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2 - 4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร
วันที่ 26 ธ.ค. 66
- ตอนบนของภาค: อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 - 40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
- ตอนล่างของภาค: มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 - 40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2 – 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
วันที่ 20 - 21 ธ.ค. 66
- มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
วันที่ 22 - 25 ธ.ค. 66
- ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 – 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณตอนล่างของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองและห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
วันที่ 26 ธ.ค. 66
- มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณตอนล่างของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองและห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 35 องศาเซลเซียส
ทั้งนี้กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาพอากาศวันที่ 20 - 26 ธ.ค. 66 (พยากรณ์อากาศล่วงหน้า) ระบุว่าประเทศไทยมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 5 - 8 องศาเซลเซียส ภาคเหนืออุณหภูมิจะลดลง 4 – 6 องศาเซลเซียส ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 3 – 5 องศาเซลเซียส ส่วนภาคใต้ตอนบนอุณหภูมิจะลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียส
ในช่วงวันที่ 20 – 21 ธ.ค. 66 ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง โดยคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 22 – 25 ธ.ค. 66 ภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้น และฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2 - 4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร สำหรับทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองและห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
หลังจากนั้น มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้เริ่มมีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนฟ้าคะนอง และฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยเริ่มมีกำลังอ่อนลง โดยบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร สำหรับทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองและห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ข้อควรระวัง วันที่ 22 - 26 ธ.ค. 66
- ประชาชนบริเวณภาคใต้ตอนล่างระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม
- ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกให้ระมัดระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง
- ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
- เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่ง