กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ยังคงขยายผลตรวจค้นจับกุมเครือข่ายลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน เพื่อหาผู้ที่อยู่เบื้องหลังในระดับที่สูงขึ้นไป หรือตัวการใหญ่ในขบวนการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน
ล่าสุด ดีเอสไอ เข้าตรวจค้น บริษัท ฟู้ด วิลเลจ จำกัด และบริษัท ตะนาวศรีไก่ไทย จำกัด ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2566 เนื่องจากพบเส้นทางการเงินจากบริษัทลักลอบนำเข้าซากสุกร(หมูเถื่อน) มาเชื่อมโยงกับ 2 บริษัทดังกล่าว
และยังพบเบาะแสว่า มีกลุ่มทุนจีน ร่วมกับคนไทยเป็นเจ้าของนำชิ้นส่วนซากไก่แช่แข็งเข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิได้รับอนุญาต เพื่อส่งออกไปประเทศจีนโดยการสวมสิทธิของบริษัทที่ได้รับอนุญาตส่งออก
ด้าน พ.ต.ต.ณฐพล ดิษฐธรรม หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อน เปิดเผยว่า พบมีการนำเข้าตู้สินค้าแช่แข็งในพื้นที่จังหวัดนครปฐม ราชบุรี สมุทรปราการ และเพชรบุรี โดยมีบริษัทที่ดีเอสไอจับกุมดำเนินคดีไปแล้วอย่างน้อย 2 บริษัท ที่มีการส่งตู้มาในนครปฐม ประเภทไก่ โดยมีการสำแดงเท็จในการนำเข้าเป็นอาหารทะเล หรือโพลีเมอร์
นอกจากนี้ดีเอสไอยังพบหลักฐานพาดพิงถึงกลุ่มข้าราชการระดับสูงที่เป็นข้าราชการประจำ และข้าราชการฝ่ายการเมืองของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะหน่วยงานที่อนุญาตให้นำเข้าและส่งออกผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องในการทำผิด ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผล
สำหรับผลการตรวจค้น บริษัท ฟู้ด วิลเลทฯ ดีเอสไอ ได้ตรวจยึดเครื่องคอมพิวเตอร์ จำนวน 7 เครื่อง และเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายกับ บริษัทตะนาวศรีฯ หลายรายการ
ในส่วนของบริษัทตะนาวศรีฯ ได้ตรวจยึดเอกสารหลายรายการ เช่น ใบอนุญาตให้นำหรือเคลื่อนย้ายสัตว์หรือซากสัตว์ เข้า ออก ผ่าน หรือ ภายในเขตโรคระบาดชั่วคราว หรือเขตเฝ้าระวังโรคระบาด เอกสารใบรับรองให้จำหน่ายเนื้อสัตว์ เอกสารรายงานผลการวิเคราะห์ และทดสอบและชันสูตรโรคสัตว์ เอกสารบัญชีรายชื่อผู้ขายสินค้าและบริการ เอกสาร HEALTH CERTIFICATE FOR FROZEN และสมุดจดบันทึกรายการซื้อขายไก่ เป็นต้น
พ.ต.ต. ยุทธนา แพรดำ รักษาการอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า การสืบค้นย้อนหลังจากห้องเย็นต่างๆ ที่ได้มีการนำซากสุกรแช่แข็งมาส่ง ทำให้สามารถขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับผู้ลักลอบนำเข้าซากสุกรแช่แข็ง เดิม 161 ตู้ เพิ่มเป็นกว่า 2,588 ตู้
พร้อมมีข้อมูลเพิ่มเติมจากพยานว่า มีผู้ที่รับดำเนินการเคลียร์ให้กับเจ้าหน้าที่ระดับสูง รวมถึงข้าราชการการเมือง จึงได้มีการตรวจค้นขยายผลหาผู้ที่อยู่เบื้องหลังในระดับที่สูงขึ้นไป พร้อมยืนยันว่าหากมีหลักฐานไปถึงบุคคลใดในทุกระดับ ดีเอสไอพร้อมดำเนินคดีทั้งหมด
โดยหลังจากนี้ดีเอสไอจะเชิญผู้บริหารทั้ง 2บริษัทมาให้การกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษเพื่อทราบข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้เคยกล่าวว่า เรื่องนี้ดีเอสไอ รับเป็นคดีพิเศษ ได้หารือกับรมว.ยุติธรรม แล้ว ก่อนวันที่ 31 ธ.ค. จะมีความชัดเจนทั้งหมดน่าจะปิดคดีได้