สภาพอากาศวันที่ 18-22 ม.ค.เหนือ อุณหภูมิลด 2-4 องศา -กลางตอนบน อากาศเย็น

16 ม.ค. 2567 | 17:48 น.

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศล่วงหน้า 18-22 ม.ค.ภาคเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิลดลง 2-4 องศา ภาคกลางตอนบน อากาศเย็นตอนเช้า ส่วนอีสาน -ตะวันออก อุณหภูมิสูงขึ้น 1-3 องศา ภาคใต้ ฝนลดลง

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศวันนี้ -22 มกราคม 2567 (พยากรณ์อากาศล่วงหน้า) ในวันที่  18 - 22 ม.ค. 67 ลมตะวันตกในระดับบนพัดปกคลุมภาคเหนือและภาคกลางตอนบน ทำให้ภาคเหนือยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า และมีอุณหภูมิลดลง 2 - 4 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลางมีอากาศเย็นในตอนเช้า 

 

ขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก มีอุณหภูมิสูงขึ้น 1 - 3 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้จะมีกำลังอ่อนลง  สำหรับภาคใต้มีฝนลดลง เพราะมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังอ่อนลง

       

ส่วนสภาพอากาศวันนี้ มีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่งเกิดขึ้นได้ในภาคเหนือ โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลางจะมีอุณหภูมิลดลง 1 - 2 องศาเซลเซียส ส่วนภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย สำหรับบริเวณยอดดอยของภาคเหนือมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด ส่วนยอดภูของภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาว 

 

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยตอนล่างและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่งในช่วงวันที่ 16 – 18 ม.ค.67 ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
 

กรมอุตุฯขอเตือนในช่วงวันที่ 16 - 17 ม.ค. 67 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือตอนบนระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่งที่จะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร 

 

ส่วนในช่วงวันที่ 16 – 18 ม.ค. 67 ประชาชนในภาคใต้ฝั่งตะวันออกตอนล่างระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ตลอดช่วง

กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายอากาศรายภาค ระหว่างวันที่ 16 – 22 มกราคม พ.ศ. 2567

ภาคเหนือ
วันที่ 16 – 17 ม.ค. 67 

  • มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 17 – 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 34 องศาเซลเซียส

วันที่ 18 – 22 ม.ค. 67 

  • อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียสอุณหภูมิต่ำสุด 14 – 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 35 องศาเซลเซียสบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด กับมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 4 - 10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 15 กม./ชม.

ภาคเหนือ วันที่ 16 – 17 ม.ค. 67   มีพายุฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่ง

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
วันที่ 16 - 17 ม.ค. 67 

  • มีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 1 - 2 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 15 – 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10 - 15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม.

วันที่ 18 – 22 ม.ค. 67 

  • อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 – 3 องศาเซลเซียสอุณหภูมิต่ำสุด 17 – 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 – 35 องศาเซลเซียสบริเวณยอดภูมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12 - 16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.

ภาคกลาง
วันที่ 16 - 17 ม.ค. 67 

  • มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ โดยมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1 - 2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 – 34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 25 กม./ชม.

วันที่ 18 – 22 ม.ค. 67

  • อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 – 35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 15 กม./ชม.

ภาคตะวันออก
วันที่ 16 - 17 ม.ค. 67

  • อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 21 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

วันที่ 18 - 22 ม.ค. 67 

  • อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 – 2 องศาเซลเซียสอุณหภูมิต่ำสุด 22 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 – 36 องศาเซลเซียสลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
วันที่ 16 – 18 ม.ค. 67 

  • มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 - 40 ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค
  • ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
  • ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราช ลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 20 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

วันที่ 19 – 22 ม.ค. 67

  • มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 34 องศาเซลเซียส
  • ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
  • ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราช ลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

  • มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองและห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 35 องศาเซลเซียส

กรุงเทพและปริมณฑล
วันที่ 16 - 17 ม.ค. 67 

  • มีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1 – 2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 – 35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 25 กม./ชม.

วันที่ 18 - 22 ม.ค. 67 

  • มีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 - 2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 – 36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 15 กม./ชม.

กรุงเทพและปริมณฑล วันที่ 16 - 17 ม.ค. 67  มีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง