เปิดคำสั่งกรมอุทยานฯ ให้ชัยวัฒน์ ชดใช้ 3.6 ล้าน ปมปลูกป่าแก่งกระจาน

ประเด็นข้อพิพาท ระหว่างแนวเขตปฏิรูปที่ดิน จังหวัดนครราชสีมา กับแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ยังคงจบไม่ลง แม้จะมีการชี้จากกรมแผนที่ทหารแล้วว่า พื้นที่ที่ ส.ป.ก.ไปปักหมุดอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน ไม่ได้อยู่ในเขตอุทยานฯก็ตาม โดยทั้งกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ต่างออกแถลงการณ์ยืนยันสิทธิในพื้นที่ และความถูกต้องในอำนาจ หน้าที่ของตนเอง

แต่ในขณะเดียวกันแหล่งข่าวกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เปิดเผยว่า ภายในกระทรวงฯ ได้มีการส่งต่อเอกสารคำสั่งกรมอุทยาน 45/2566 เรื่อง ให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ทางราชการ กรณีการดำเนินโครงการปลูกป่าเพื่อลดปัญหาอุทกภัยและ ภาวะโลกร้อนในพื้นที่ป่าแก่งกระจานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา รายนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ลงวันที่ 15 มีนาคม 2566 

จากกรณีที่กรมอุทยานฯ ได้พิจารณาสำนวนการสอบข้อเท็จจริง ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ ในการดำเนินโครงการปลูกป่า เพื่อลดปัญหาอุทกภัยและ ภาวะโลกร้อนในพื้นที่ป่าแก่งกระจานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา

พบว่านายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร จากรายงานผลการสืบสวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ตามคำสั่งสำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีความเห็นว่า นายชัยวัฒน์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ ทำหน้าที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน

เป็นประธานกรรมการตรวจการจ้าง ตามคำสั่งสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป้ง) ที่ 2308/2555 ลงวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2555 และ ที่ 0937/2556 ลงวันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2556 ได้ดำเนินการตรวจการจ้างวดที่ 1 - 3 เป็นผู้เสนอโครงการปลูกป่า และเป็นประธานคณะกรรมการกำหนดรายละเอียดและราคากลาง 

ได้ยืนยันกำหนดรายละเอียดพื้นที่ที่จะดำเนินการ จำนวน 4 แปลง รวม 4,200 ไร่ อยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยที่นายชัยวัฒน์ ลิ้มสิขิตอักษร ย่อมรู้ว่าสภาพพื้นที่แปลงปลูกป่า มีความเหมาะสมหรือไม่ แต่ยืนยันที่จะกำหนดพื้นที่ใหม่ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าที่มีสภาพสมบูรณ์ มีพื้นที่ส่วนน้อยเป็นพื้นที่บุกรุก หรือป่าที่มีสภาพเสื่อมโทรม ทุ่งหญ้า พื้นที่เปิดโล่ง 

จากข้อมูลดาวเทียมจำนวน 3 ดวง ซึ่งบันทึกภาพพื้นที่ในช่วงเวลาทั้งก่อนดำเนินการปลูก ช่วงเวลาระหว่างดำเนินการปลูก และหลังที่มีการตรวจการจ้างการปลูกป่า ข้อมูลวิเคราะห์พื้นที่แปลงปลูกป่าภายในขอบเขตที่กำหนด มีจำนวนพื้นที่แต่ละแปลงใกล้เคียงตามเนื้อที่ที่กำหนดให้ปลูก ปรากฎผลการอ่านแปลพบว่า สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เกินกว่าร้อยละ 70-85 ของพื้นที่แปลงปลูกป่ามีสภาพเป็นป่าที่มีความสมบูรณ์ ไม่เหมาะสมที่จะนำมากำหนดเป็นแปลงปลูกป่า

และในการดำเนินการตรวจการจ้าง งวดที่ 1-3 ปรากฎข้อเท็จจริงว่า นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ได้ตรวจรับงานจ้างด้วยตนเอง แต่ไม่ได้ไปตรวจรับงานจ้างพร้อมกันกับกรรมการทั้ง 3 ราย คือนายกมล อุ่นใจ และนางสาวสุพร พลพันธ์ แต่อย่างใด 

ฉะนั้นอาศัยอำนาจตามความในมาตรา12 แห่งพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 จึงมีคำสั่งให้นายชัยวัฒน์ รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เป็นจำนวนเงิน 3,633,167 บาท พร้อมดอกเบี้ย ร้อยละ 5 ต่อปี นับตั้งแต่วันผิดนัดชำระหนี้ จนกว่าจะชำระหนี้เสร็จสิ้นให้แก่กรมอุทยาน สัตว์ป่าฯ ภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งดังกล่าว 

ทั้งนี้ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) ได้เคยเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) เมื่อวันที่ 7 ก.พ.2566 เพื่อแจ้งความดำเนินคดีนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ที่ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พร้อมเอาผิดคณะกรรมการ ป.ป.ท. 12 คน ที่เคยชี้มูลความผิดในคดีเผาบ้านชาวกระเหรี่ยง และคดีบิลลี่ด้วย