วันที่ 5 ตุลาคม 2567 เทศบาลนครเชียงใหม่ ได้รายงานสถานการณ์ระดับน้ำปิง ที่สถานี P.1 สะพานนวรัฐ เมื่อเวลา 23.00 น. น้ำปิงระยะวิกฤต สีแดง วัดได้ 5.26 เมตร ลดลง(ตรวจสอบระดับน้ำผ่านการถ่ายทอดสดของเทศบาลนครเชียงใหม่ ได้ที่นี่)
ด้านสำนักงานชลประทานที่ 1 ออกประกาศฉบับที่ 17 วันที่ 4 ต.ค. 67 แจ้งเตือนระดับน้ำวิกฤติแม่น้ำปิงที่สถานี P1 สะพานนวรัฐ ทั้งนี้เนื่องจากสภาพฝนที่ตกกระจายในพื้นที่ลุ่มน้ำตอนบนของจังหวัดเชียงใหม่ตั้งแต่ช่วงค่ำของเมื่อวานนี้ได้ส่งผลให้เกิดน้ำหลากสูงในลำน้ำสาขาของแม่น้ำปิง ประกอบด้วย น้ำแม่งแตง น้ำปิง (ต้นน้ำที่อำเภอเชียงดาว) น้ำแม่ริม น้ำแม่สา น้ำแม่เตาไห ซึ่งมวลน้ำจากลำน้ำสาขาดังกล่าวจะไหลลงมาสมทบลงแม่น้ำปิง โดยระดับแม่น้ำปิงที่สถานี P1 จะทรงตัวอยู่ระยะหนึ่ง และจะมีระดับสูงขึ้นอีกจากมวลน้ำระลอกใหม่
สำนักงานชลประทานที่ 1 คาดการณ์ว่ามวลน้ำสูงสุดจากน้ำแม่แตงที่ไหลผ่านฝายแม่แตง (ขณะนี้ยังคงมีปริมาณน้ำหลากสูงขึ้นต่อเนื่อง) จะเคลื่อนตัวผ่านสถานี P.67 (บ้านแม่แต อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่) และไหลไปสมทบกับปริมาณน้ำจากน้ำแม่ริม ส่งผลให้สถานี P.1 จะมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น (สูงกว่าระดับ +4.93 เมตรที่เคยขึ้นสูงสุดเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2567)
สำนักงานชลประทานที่ 1 เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยจะประกาศแจ้งเตือนสถานการณ์ให้ทราบต่อเนื่องและขอให้พื้นที่ลุ่มต่ำตามแนวแม่น้ำปิง เตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำตามแนวแม่น้ำปิงที่เพิ่มสูงขึ้น และขอให้เฝ้าระวังผลกระทบที่อาจะเกิดขึ้นในพื้นที่เสี่ยงทุกโซน
ข้อมูลเมื่อเวลา 11.30 น. ของวันที่ 4 ต.ค.67 สำนักชลประทานที่ 1 และผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ประกาศว่า คืนวันนี้ระดับน้ำปิงที่จุด P.1 จะขึ้นสูงสุดราว 5.20 เมตร ช่วงตี 1 และจะแผ่ขยายไปยังอำเภอรอบข้าง ทั้งนี้ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเตรียมรับมือและปฏิบัติตามแผนขั้นสูงสุด
ล่าสุดสำนักชลประทานที่ 1 ได้ออกประกาศฉบับที่ 19 เตือนระดับน้ำวิกฤตแม่น้ำปิงที่สถานี P.1สะพานนวรัฐ ในช่วงเวลา 02.00-03.00น.วันที่ 5 ตุลาคม 2567 จะสูง 5.20 -5.30 เมตร สูงกว่าตลิ่ง 1.50 -1.60 เมตร และสูงกว่าระดับวิกฤต 1.00 -1.10 เมตร
โซนที่ 1
โซนที่ 2
โซนที่ 3
โซนที่ 4
โซนที่ 5
โซนที่ 6
โซนที่ 7
ด้านตำรวจจราจรเชียงใหม่ ได้อัปเดตสถานการณ์น้ำท่วมเส้นทาง รวมถึงประชาสัมพันธ์เส้นทางการจราจรที่ถูกปิดกั้นในพื้นที่อำเภอเมืองจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีรายละเอียดดังนี้
นายอัศนี บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 4 ต.ค.67 เวลาประมาณ 10.00 น. ได้มีมวลน้ำก้อนใหญ่ผ่านมาถึงยังแม่น้ำปิง บริเวณอำเภอแม่แตง และมวลน้ำก้อนนี้จะเข้ามาถึงยังพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ในช่วงเย็นวันที่ 4 ต.ค.67 ซึ่งคาดว่าระดับน้ำปิงจะสูงเกินกว่าระดับ 5 เมตร อาจทำให้น้ำสูงเกินกว่าระดับสะพานข้ามคลองและแม่น้ำหลายจุดในพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ และน้ำจะแผ่ออกเป็นวงกว้างมากขึ้น ทำให้พื้นที่ถูกน้ำท่วมจะเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย
โดยขณะนี้กำลังเร่งแจ้งเตือนพี่น้องประชาชนให้ได้รับทราบอย่างทั่วถึง พร้อมทั้งเร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียงและกลุ่มเปราะบางออกจากพื้นที่ไปยังจุดปลอดภัยให้เร็วที่สุด ควบคู่กับการวางแผนส่งอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของยังชีพไปให้ถึงพี่น้องประชาชนให้ได้ครบทุกครัวเรือน ซึ่งขณะนี้ต้องใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่ของทหารในการขนส่ง เนื่องจากน้ำเริ่มสูงขึ้น รถยนต์ทั่วไปเริ่มสัญจรลำบาก
"ฝากเตือนให้พี่น้องประชาชนระวังตัวในเรื่องของอันตรายที่มาจากกระแสไฟฟ้า โดยเฉพาะเฝ้าดูเด็กเล็กให้ห่างจากปลั๊กไฟ และเลี่ยงการลงน้ำ"
ส่วนกรณีมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม ได้ประกาศขออาสาสมัคร และหน่วยงานเข้าช่วยเหลือในการขนย้ายสัตว์ไปบนเขาด่วน เนื่องจากถนนถูกตัดขาด ล่าสุดนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ทีมเชียงใหม่ ได้ส่งปศุสัตว์จังหวัด, สัตวแพทย์, นายอำเภอแม่แตง เข้าประสานเร่งช่วยเหลือช้างมูลนิธิอนุรักษ์ช้างฯ อ.แม่แตง แล้ว
ขณะเดียวกัน นายนิรัตน์ ได้เปิดเผยเพิ่มเติมหลังจากมีการประชุมโดยระบุว่า ในช่วงวันที่ 3 ต.ค. 67 มีปริมาณฝนตกหนักเกินกว่าที่คาดไว้ โดยเฉพาะในพื้นที่โซนเหนือที่ อ.เชียงดาว และ อ.แม่แตง ที่ตกเฉลี่ยมากถึง 150-200 มิลลิเมตร ซึ่งจะทำให้มีมวลน้ำขนาดใหญ่ไหลเข้าสู่ตัวเมืองเชียงใหม่มากกว่าที่เคยผ่านมา
โดยจากการคาดการณ์ของชลประทาน คาดว่า น้ำจะสูงขึ้นอีกราว 30 เซนติเมตร ทำให้ระดับน้ำปิงที่จะผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ที่สถานีวัดระดับน้ำที่จุด P.1 สะพานนวรัฐ จะขึ้นสูงสุดในระดับ 5.20 เมตร ในช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. ของคืนนี้ มีอัตราการไหลของน้ำเฉลี่ยถึง 800-900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และน้ำจะแผ่ขยายตัวออกเป็นวงกว้าง
จากกรณีดังกล่าวจะไม่ใช่แค่พื้นที่อำเภอเมืองเชียงใหม่เท่านั้นที่จะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมสูง แต่ยังส่งผลกระทบไปยังอำเภอข้างเคียง เช่น อำเภอแม่ริม อำเภอสันทราย รวมถึงอำเภอทางตอนใต้ เช่น อำเภอหางดง สารภี และสันป่าตอง
อนึ่งเทศบาลนครเชียงใหม่ ได้ประกาศแจ้งย้ายศูนย์ป้องกันและบรรเทาอุทกภัยเฉพาะกิจเทศบาลนครเชียงใหม่CMFORCE จากสำนักงานแขวงกาวิละ มายัง สนามกีฬาเทศบาลนครเชียงใหม่ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนสามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือผ่านช่องทางดังนี้
ที่มาข้อมูล-ภาพ