หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ได้มีมติเป็นเอกฉันท์แต่งตั้ง “บิ๊กต่าย” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.อาวุโส อันดับ 1 ขึ้นเป็น ผบ.ตร.คนที่ 15 โดยน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์ฝุ่นตลบเกิดขึ้นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติมากมาย จนทำให้ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ( ป.ป.ช. ) กรณีมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนโดยมิชอบ
รายการ “เข้าเรื่อง” เผยแพร่ทางยูทูปช่องฐานเศรษฐกิจ ได้สนทนากับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ถึงฉากทัศน์ต่างๆต่อจากนี้ โดยพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า การแต่งตั้ง ผบ.ตร.นั้นจบแล้ว แต่เรื่องราวยาวนานที่เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ยังไม่จบ เพราะเรื่องเดิมที่ค้างอยู่นั้น ใครจะถูกใครจะผิดยังไม่รู้ ศาลยังไม่ได้พิพากษา
โดยยังมีคดีที่พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยื่นต่อศาลปกครองสูงสุดอยู่ และขอคุ้มครองชั่วคราว ซึ่งหากได้รับการคุ้มครองชั่วคราว ก็ต้องมีคำสั่งให้กลับไปเป็นรอง ผบ.ตร. แต่หากไม่ได้รับการคุ้มครองชั่วคราวก็ยังต้องรอคำพิพากษาจากศาล ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาใกล้เคียงกับอายุราชการของบิ๊กต่าย ซึ่งหากท้ายที่สุดพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไม่ผิด ก็ยังเหลืออายุราชการที่สามารถกลับเข้าไปสู่การเป็นแคนดิเดต ผบ.ตร.คนถัดๆไปได้
สำหรับกรณีมีมติแต่งตั้งให้ “บิ๊กต่าย” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ เป็น ผบ.ตร. นั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่าเป็นไปอย่างถูกต้องตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ และไม่สามารถไปเอาผิดนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้ เพราะเป็นเพียงผู้เสนอชื่อ และเสนอชื่อผู้มีอาวุโสลำดับที่ 1 ซึ่งถูกต้องอยู่แล้ว ส่วนการเห็นชอบ ต้องเป็นมติของคณะกรรมการ ก.ตร.
นอกจากนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังได้แสดงความเห็นต่อกรณีที่ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ระบุว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ยังมีคดีอยู่ที่ ป.ป.ช. รวมถึงฝากการบ้านสำคัญถึง ผบ.ตร.คนที่ 15 ทั้งหมดนี้สามารถติดตามต่อได้ใน รายการ “เข้าเรื่อง”