ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในวันพฤหัสบดีนี้ เนื่องจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยยังคงสูง แม้ค่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นก็ตาม นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าราคาทองคำอาจทำสถิติสูงสุดใหม่ โดยแพลเลเดียมพุ่งสูงสุดในรอบเดือน
ราคาทองคำสปอตเพิ่มขึ้น 0.2% อยู่ที่ 2,723.10 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ณ เวลา 04.00 น. ตามเวลา GMT หลังจากราคาพุ่งทำสถิติสูงสุดที่ 2,758.37 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในวันพุธที่ผ่านมา เนื่องจากความไม่แน่นอนของการเลือกตั้งสหรัฐฯ และสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่ส่งผลให้ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ราคาทองคำฟิวเจอร์สสหรัฐฯ ปรับขึ้น 0.3% ปิดที่ 2,736.10 ดอลลาร์สหรัฐฯ
แม้ว่าราคาทองคำจะได้รับแรงหนุนจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ค่าเงินดอลลาร์ที่ยังคงอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน ทำให้ศักยภาพในการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำถูกจำกัด เนื่องจากดอลลาร์ที่แข็งค่าทำให้ทองคำมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
เหลือเวลาไม่ถึงสองสัปดาห์ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โพลสำรวจจาก Reuters/Ipsos ระบุว่ารองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส มีคะแนนนำอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพียงเล็กน้อย ด้วยคะแนน 46% ต่อ 43% ขณะที่ตลาดจับตามองความเคลื่อนไหวนี้อย่างใกล้ชิดเนื่องจากความไม่แน่นอนในการเมืองอาจส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของตลาดการเงินและราคาทองคำ
ราคาแพลเลเดียมเพิ่มขึ้นถึง 5.1% แตะ 1,111.50 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 18 กันยายน โดย Bloomberg รายงานว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ได้ร้องขอให้กลุ่ม G-7 พิจารณามาตรการคว่ำบาตรสินค้าแพลเลเดียมและไทเทเนียมจากรัสเซีย ซึ่งรัสเซียถือเป็นผู้ผลิตแพลเลเดียมใหญ่ที่สุดของโลก
นักวิเคราะห์คาดการณ์ราคาทองคำจะพุ่งแตะ 3,000 ดอลลาร์ในปีหน้า Sugandha Sachdeva ผู้ก่อตั้งบริษัท SS WealthStreet กล่าวว่า “ตลอดช่วงที่เหลือของปีนี้ เราเห็นศักยภาพที่ราคาทองคำจะพุ่งแตะระดับ 2,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยในปี 2025 ราคาทองคำอาจแตะ 3,000 ดอลลาร์หรือสูงกว่านั้น เนื่องจากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงอยู่ การลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ และการซื้อทองคำโดยธนาคารกลางหลายประเทศ”
ราคาเงินสปอตปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.5% อยู่ที่ 33.89 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาแพลตตินัมเพิ่มขึ้น 0.9% ปิดที่ 1,025.15 ดอลลาร์สหรัฐฯ