เทศกาลคริสต์มาส ที่จัดขึ้นทั่วโลกไม่ได้มีเพียงการประดับต้นคริสต์มาสและแลกของขวัญเท่านั้น หลายประเทศมีประเพณีเฉลิมฉลองที่เป็นเอกลักษณ์และน่าสนใจอย่างมาก ตั้งแต่การรับประทานอาหารเฉพาะไปจนถึงกิจกรรมที่สะท้อนวัฒนธรรมท้องถิ่น มาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่ทำให้คริสต์มาสในแต่ละแห่งมีความพิเศษแตกต่างกัน
แทนที่จะเลือกขนมปังหรือไก่งวงย่าง ในญี่ปุ่นการเฉลิมฉลองคริสต์มาสกลับเน้นไปที่การรับประทานไก่ทอดแบรนด์ดังตั้งแต่ปี 1974 เมื่อแคมเปญโฆษณาของไก่ทอดเจ้านี้ส่งเสริมให้ "ไก่ทอดสำหรับคริสต์มาส" กลายเป็นธรรมเนียมประจำปีที่คนญี่ปุ่นรอคอย การสั่งล่วงหน้าหลายสัปดาห์เพื่อไม่ให้พลาดเมนูพิเศษนี้เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับหลายครอบครัว
ที่เมืองเยฟเล ประเทศสวีเดน ชาวบ้านสร้าง "แพะฟาง" ขนาดมหึมาเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาส แต่สิ่งที่ทำให้ประเพณีนี้โด่งดังคือการที่แพะยักษ์มักถูกลอบวางเพลิงซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความพยายามปกป้องแพะจากไฟไหม้กลายเป็นเรื่องท้าทายและดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาชมด้วยความตื่นเต้น
ชาวนอร์เวย์มีความเชื่อที่ไม่เหมือนใครว่าในคืนคริสต์มาสอีฟ วิญญาณร้ายและแม่มดจะออกมาเพื่อขโมย "ไม้กวาด" ไปขี่ ดังนั้นพวกเขาจึงซ่อนไม้กวาดไว้ในที่ปลอดภัยเพื่อหลีกเลี่ยงโชคร้าย นี่เป็นตัวอย่างของการผสมผสานระหว่างความเชื่อดั้งเดิมและเทศกาลสมัยใหม่อย่างลงตัว
ในยูเครน การตกแต่งต้นคริสต์มาสด้วย "ใยแมงมุมปลอม" ไม่ใช่เรื่องแปลก ชาวบ้านเชื่อว่าใยแมงมุมเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดี ซึ่งสืบเนื่องจากตำนานพื้นบ้านเกี่ยวกับแมงมุมที่ช่วยครอบครัวยากจนตกแต่งต้นคริสต์มาสในอดีต
ในขณะที่ซานตาคลอสแจกของขวัญในคริสต์มาสอีฟ ชาวอิตาลีมี "บาฟานา" แม่มดแก่ใจดีที่มอบของขวัญให้เด็กๆ ในคืนวันที่ 5 มกราคม ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดเทศกาลคริสต์มาสของพวกเขา ความเชื่อนี้ผูกโยงกับเทศกาลทางศาสนาที่สำคัญของประเทศ
ที่กรุงการากัส ผู้คนเฉลิมฉลองคริสต์มาสในแบบที่ไม่เหมือนใครด้วยการโรลเลอร์สเก็ตไปโบสถ์ในยามเช้าของวันคริสต์มาส ถนนในเมืองจะถูกปิดให้ปลอดภัยสำหรับนักโรลเลอร์สเก็ต ซึ่งเป็นภาพที่สนุกสนานและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา
ชาวฟินแลนด์นิยมเข้าซาวน่าในวันคริสต์มาสอีฟ เพื่อผ่อนคลายและชำระล้างร่างกายก่อนเริ่มเทศกาล ช่วงเวลานี้ถือเป็นโอกาสสำคัญสำหรับครอบครัวที่จะใช้เวลาร่วมกันในบรรยากาศอบอุ่น
ชาวเม็กซิโกจัดขบวนแห่ที่เรียกว่า "ลาส โพซาดาส" ระหว่างวันที่ 16-24 ธันวาคม ซึ่งจำลองการเดินทางของพระแม่มารีและโยเซฟเพื่อหาที่พักก่อนพระเยซูจะประสูติ ขบวนแห่นี้เต็มไปด้วยสีสันและเสียงเพลง สร้างความสุขแก่ชุมชน
ชาวกรีนแลนด์ฉลองคริสต์มาสด้วยอาหารพื้นเมือง เช่น "มาตัก" (เนื้อวาฬหั่นบาง) และ "คิววิอัค" (เนื้อแมวน้ำหมักในหนังแมวน้ำ) ซึ่งสะท้อนถึงวิถีชีวิตที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติของชาวเมือง
ที่เมืองซานเฟอร์นันโด ประเทศฟิลิปปินส์ มีการจัดเทศกาลโคมไฟยักษ์ที่สวยงามจนได้รับการขนานนามว่า "เมืองหลวงแห่งคริสต์มาส" โคมไฟหลากสีเหล่านี้สร้างสรรค์ขึ้นจากความร่วมมือของชุมชน
การเฉลิมฉลองคริสต์มาสไม่จำกัดเพียงการให้ของขวัญและการตกแต่งต้นไม้ ประเพณีหลากหลายจากทั่วโลกนี้แสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์ของแต่ละวัฒนธรรมที่ผสมผสานความเชื่อและความสร้างสรรค์เข้าด้วยกันอย่างงดงาม เป็นแรงบันดาลใจให้เรามองเทศกาลนี้ในแง่มุมใหม่และยินดีในความแตกต่างของมนุษย์ทั่วโลก