กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน เปิดรับสมัครชายไทยเพื่อไปทำงานภาคเกษตรในรัฐอิสราเอล ภายใต้โครงการ “ความร่วมมือไทย – อิสราเอล เพื่อการจัดหางาน” (Thailand-Israel Cooperation on the Placement of Workers : TIC) ) ครั้งที่ 17 เงินเดือนขั้นต่ำก่อนหักภาษีเดือนละ 5,300 เชคเกลอิสราเอล หรือ ประมาณ 56,946 บาท (อัตราแลกเปลี่ยนเงินวันที่ 21 กันยายน 2565) ระยะเวลาการจ้างงานตามสัญญาจ้าง 2 ปี ต่อได้ไม่เกิน 5 ปี 3 เดือน โดยจะต้องมีประสบการณ์ทำงานภาคการเกษตร ผู้ที่สนใจสามารถสมัครได้ตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน – 5 ตุลาคม 2565
สำหรับรายละเอียดคุณสมบัติมีดังนี้
1.เพศชาย สัญชาติไทย
2.พ้นภาระการรับราชการทหาร
3.อายุ 23 – 39 ปี (เกิดระหว่างวันที่ 26 กันยายน 2526 – 5 ตุลาคม 2542)
4.ไม่มีประวัติอาชญากรรม ประวัติการใช้ยาเสพติด และติดแอลกอฮอล์
5.ไม่เคยทำงานในประเทศอิสราเอล ไม่มีคู่สมรส บุตร หรือบิดาและมารดาพำนักอยู่ในประเทศอิสราเอล
6.สุขภาพแข็งแรง ตาไม่บอดสี ไม่เป็นโรคติดต่อ ไม่เสพสารเสพติด หรือเสพติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
7.ต้องมีประสบการณ์ทำงานภาคการเกษตร
ช่องทางการสมัคร
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า การรับสมัครในครั้งนี้เป็นการดำเนินการเพื่อจัดส่งคนหางานไปทำงานต่างประเทศ โดยวิธีรัฐจัดส่ง ผู้สมัครไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายในการสมัคร เว้นแต่ค่าใช้จ่ายสำหรับการเดินทางไปทำงานในรัฐอิสราเอล ในกรณีที่ได้รับการคัดเลือก โดยมีค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนเงินประมาณ 71,020 บาท (ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยน) แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่
1.ค่าใช้จ่ายก่อนเดินทาง เช่น ค่าธรรมเนียมการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมค่าธรรมเนียมการขอรับหนังสือเดินทาง ค่าตรวจสุขภาพ ค่าบัตรโดยสารเครื่องบินเที่ยวเดียวจากประเทศไทยไปยังอิสราเอล ค่าสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศตามที่กระทรวงแรงงานกำหนด เป็นต้น
2.ค่าใช้จ่ายหลังจากเดินทางไปถึงตามกฎหมายแห่งรัฐอิสราเอล
ทั้งนี้ หากมีผู้แอบอ้างว่าสามารถช่วยเหลือให้ได้รับการคัดเลือกเพื่อไปทำงานภาคเกษตรในประเทศอิสราเอลได้ โปรดอย่าหลงเชื่อ แต่ขอให้แจ้งและตรวจสอบข้อมูลกับกรมการจัดหางานก่อน
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่าแรงงานไทยเป็นที่ต้องการของนายจ้างอิสราเอลมาโดยตลอด แม้ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด ก็ยังคงต้องการแรงงานไทยไปทำงานเกษตร เพราะคนไทยทำงานได้ดี มีทักษะ และความรับผิดชอบ ซึ่งกระทรวงแรงงาน ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมแรงงานไทยให้เดินทางไปทำงานต่างประเทศมาอย่างยิ่ง เพราะเป็นการเพิ่มโอกาสมีงานทำ มีรายได้ ได้ รับประสบการณ์และทักษะจากการทำงานในต่างประเทศมาต่อยอดพัฒนาตนเอง