แถลงการณ์ประณามเหตุกราดยิง ชี้ ละเมิดสิทธิร้ายแรง- ไร้มนุษยธรรม

06 ต.ค. 2565 | 13:17 น.
อัปเดตล่าสุด :06 ต.ค. 2565 | 22:43 น.

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ แถลงการณ์ประณามเหตุกราดยิงโหด "ศูนย์เด็กเล็ก" ชี้ ละเมิดสิทธิร้ายแรง- ไร้มนุษยธรรม แนะ รัฐเร่งเยียวยา ฟื้นฟูสภาพจิตใจผู้ได้รับผลกระทบโดยเร็ว

วันนี้ (วันที่  6 ต.ค. 65 )  คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)ออกแถลงการณ์กรณีเหตุกราดยิงในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลอุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู  เป็นเหตุให้มีเด็ก และผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์จำนวนหลายรายเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ว่า กสม. ขอประณามการก่อเหตุอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงดังกล่าว และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งไปยังครอบครัวและญาติมิตรของผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ

 

เหตุการณ์นี้ถือเป็นเหตุอุกอาจสะเทือนขวัญที่กระทำด้วยความโหดร้ายทารุณ ไร้มนุษยธรรม และผิดต่อกฎหมาย อันพรากสิทธิในชีวิตและร่างกายของหลายคนไปอย่างไม่ควรเกิดขึ้น โดยเฉพาะเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นกับเด็กซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบางที่สุดของสังคมซึ่งสมควรต้องได้รับการปกป้องยิ่ง ดังที่หลักการสิทธิมนุษยชนสากลและรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 28 ได้บัญญัติคุ้มครองสิทธิในชีวิตและร่างกายของทุกคนไว้ เช่นเดียวกับอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (CRC) ที่ประเทศไทยเป็นภาคีซึ่งกำหนดให้รัฐภาคียอมรับว่าเด็กทุกคนมีสิทธิติดตัวที่จะมีชีวิต และประกันอย่างเต็มที่ให้เด็กได้มีชีวิตอยู่รอดและได้รับการพัฒนา

 

กสม. จึงขอเรียกร้องให้ภาคส่วนต่าง ๆ ปฏิบัติและคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนเพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเหตุสลดครั้งนี้ร่วมกัน ดังต่อไปนี้  1. ขอให้รัฐบาลและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการให้ความช่วยเหลือ เยียวยาความเสียหาย และฟื้นฟูสภาพจิตใจของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวโดยเร็วและทั่วถึง

 

 

2. ขอให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องเร่งสอบสวนมูลเหตุที่มาของการก่อเหตุ และวางมาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุสลดอันกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและร่างกายของประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบางเช่นนี้ได้อีก

 

3. ขอความร่วมมือสื่อมวลชน และประชาชนทั่วไปผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ ใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่งในการนำเสนอข่าว เผยแพร่ หรือส่งต่อภาพ/คลิปวิดีโอความโหดร้ายและรุนแรงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อไม่ให้เป็นการซ้ำเติมความรุนแรงหรือความเศร้าสลดอันส่งผลกระทบกระเทือนต่อจิตใจของญาติผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ และทำให้บุคคลทั่วไปสามารถล่วงรู้ถึงตัวตนของบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายผู้เสียหายหรือครอบครัวของผู้กระทำผิดที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุได้ 

 

ทั้งนี้ โดยคำนึงถึงสิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัวและสิทธิในชื่อเสียงเกียรติยศของบุคคลตามที่ได้รับการรับรองไว้ในรัฐธรรมนูญ  2560 มาตรา 32 รวมทั้งแนวปฏิบัติการได้มาและการนำเสนอข่าวและภาพข่าวของสื่อมวลชนโดยไม่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้ตกเป็นข่าว ที่ร่วมกันกำหนดโดยสภาวิชาชีพสื่อมวลชน