นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) กระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงสถานการณ์ถนนทางหลวงชนบทที่ได้รับผลกระทบภาพรวมในขณะนี้ (5 พ.ย. 65) ว่ามีถนนที่ได้รับผลกระทบรวม 42 สายทาง สามารถสัญจรผ่านได้ 19 สายทาง และไม่สัญจรผ่านได้ 23 สายทาง
ซึ่งได้สั่งการไปยังสำนักงานทางหลวงชนบท (สทช.) แขวงทางหลวงชนบท (ขทช.) ในพื้นที่ให้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าสังเกตระดับน้ำและลาดตระเวนบนโครงข่ายทางหลวงชนบทที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยอย่างใกล้ชิดและให้รายงานสถานการณ์ทุกวันจนกว่าจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ พร้อมให้เตรียมเครื่องมือเครื่องจักร วัสดุ อุปกรณ์ เพื่อเข้าสำรวจและดำเนินการซ่อมแซมชั่วคราวทันทีหลังน้ำลด รวมทั้ง ได้เน้นย้ำในเรื่องของการจัดรถรับส่งอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประสบภัย การให้ความช่วยเหลือ เช่น การมอบของใช้จำเป็น น้ำดื่ม ตามบ้านเรือน เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน เป็นขวัญกำลังใจร่วมเคียงข้างไปกับประชาชน ตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
สำหรับสถานการณ์ของสายทางที่ได้รับผลกระทบจากกระแสน้ำหลาก ส่งผลให้ถนนขาดหรือคอสะพานทรุด ปัจจุบันมีความคืบหน้า อาทิ
▪️สะพานชุมชน ศก.010 สะพานข้ามแม่น้ำมูล ต.บัวน้อย อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งส่งผลให้คอนกรีตบริเวณทางลาดสะพานเกิดการทรุดตัว ปัจจุบัน ขทช.ศรีสะเกษ โดยหมวดบำรุงทางหลวงชนบทกันทรารมย์ (บทช.) ได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องหมายจราจร ป้ายปิดสะพานและป้ายประชาสัมพันธ์ทางเลี่ยงเพื่อให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางในพื้นที่ได้รับทราบแล้ว ขณะนี้ระดับน้ำยังคงสูงท่วมถนนเชิงลาดสะพาน บทช.กันทรารมย์ จึงเฝ้าติดตามและตรวจสอบสะพานอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินแนวทางแก้ไขและซ่อมบำรุงอย่างเร่งด่วนภายหลังน้ำลด
▪️ถนนทางหลวงชนบทสาย ชม.3003 แยก ทล.108 - บ้านหนองล่อง อ.จอมทอง, เวียงหนองล่อง จ.เชียงใหม่ ซึ่งมีสะพานในโครงข่ายทางถนนสายดังกล่าวเกิดการทรุดตัว ช่วง กม. ที่ 1+864 - 2+046 ประมาณ 50 เซนติเมตร ปัจจุบัน ขทช.เชียงใหม่ ได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องหมายจราจร ป้ายปิดสะพานและป้ายประชาสัมพันธ์ทางเลี่ยงเพื่อให้ประชาชน ผู้ใช้เส้นทางในพื้นที่ได้รับทราบแล้ว ขณะนี้ระดับน้ำยังคงสูงท่วมตัวฐานรากสะพาน ขทช.เชียงใหม่ จึงได้เฝ้าติดตามและตรวจสอบค่าระดับของพื้นสะพานอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินแนวทางการแก้ไขและซ่อมบำรุงอย่างเร่งด่วนต่อไป
▪️ถนนทางหลวงชนบทสาย ชน.3018 แยก ทล.311 (กม.ที่ 46+600) - อินทร์บุรี (ตอนชัยนาท) อ.อินทร์บุรี จ.ชัยนาท ได้รับผลกระทบจากกระแสน้ำหลาก ส่งผลให้กัดเซาะถนนขาด ช่วง กม. ที่ 0+500 - 0+550 ประมาณ 50 เมตร ปัจจุบัน ขทช.ชัยนาท ร่วมกับจังหวัดชัยนาท กรมทางหลวง กรมชลประทาน และ อปท. โดยได้ร่วมกันปิดช่องถนนช่วงที่ขาดและดำเนินการติดตั้งเครื่องหมายจราจร ป้ายทางขาด ป้ายไม่สามารถผ่านได้ และป้ายประชาสัมพันธ์ทางเลี่ยงเพื่อให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางในพื้นที่ได้รับทราบแล้ว
นอกจากนี้ ขทช.ชัยนาท ยังได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง จากนั้นจะร่วมบูรณาการร่วมกับกรมชลประทานประเมินแนวทางการแก้ไขและเร่งเข้าดำเนินการซ่อมบำรุงชั้นโครงสร้างต่อไป เนื่องจากเป็นถนนที่ได้รับการถ่ายโอนจากกรมชลประทาน
อย่างไรก็ตาม หลังจากเข้าสู่ภาวะปกติ หากตรวจพบสายทางที่เกิดความเสียหายรุนแรงจะเข้าดำเนินการซ่อมแซมเบื้องต้น เพื่อให้ประชาชนสามารถสัญจรไปมาได้ก่อน และจะเร่งดำเนินการสำรวจ ออกแบบ ประมาณราคา พร้อมภาพถ่ายสภาพความเสียหายหลังน้ำลด เพื่อขอสนับสนุนงบประมาณในการฟื้นฟูถาวรต่อไป ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการแจ้งเหตุหรือขอความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่แขวงทางหลวงชนบททุกจังหวัด หรือ สายด่วนกรมทางหลวงชนบท โทร. 1146