จัดการ“องค์ความรู้” สร้างสังคมสมรรถนะสูง 

23 พ.ย. 2565 | 04:24 น.
อัปเดตล่าสุด :23 พ.ย. 2565 | 11:37 น.

ทำงานที่กระทรวงพลังงานมา 23 ปี เติบโตถึงตำแหน่งรองปลัดฯ ตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทาง ไปรับตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานบริหารและพัฒนองค์ความรู้ หรือ OKMD หลังผ่านการคัดเลือก

จากงานราชการ สู่ผู้บริหารองค์กรมหาชน แต่ที่เหมือนกันคือ ยังคงเป็นงานที่เกี่ยวกับนโยบายสาธารณะ และทำเรื่องของ “องค์ความรู้”

 

โจทย์ใหญ่กระทรวงพลังงานคือ ความรับรู้ที่อาจคลาดเคลื่อน ไม่ว่าจะเป็นความรู้เรื่องระบบพลังงานไทย กลไกนโยบาย กลไกราคา มีมายาคติเยอะว่าเรื่องนั้นเรื่องนี้มี “อะไร” ซ่อนอยู่

จัดการ“องค์ความรู้” สร้างสังคมสมรรถนะสูง 

“ทวารัฐ” ต้องใช้ทั้ง “องค์ความรู้” ทั้งจากที่เล่าเรียน ประสบการณ์จริงจากการทำงาน และทักษะการ “สื่อสาร” ช่วยสร้างความเข้าใจ

 

ทวารัฐ สูตะบุตร อายุ 52 ปี เกิดและเติบโตในครอบครัวที่รับราชการหลายคน

จบปริญญาตรีจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ต่อปริญญาโทจาก AIT และปริญญาเอกจาก MIT สหรัฐอเมริกา

 

กลับมาทำงานใช้ทุนที่กระทรวงพลังงานต่อเนื่อง เคยเป็นผอ.สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ รองอธิบดีกรมพลังงานทดแทนฯ รองปลัดฯ ผอ.สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน และเป็นโฆษกกระทรวงพลังงานหลายวาระ

 

3 เดือนนับแต่เข้ารับตำแหน่งผู้บริหาร OKMD  “ทวารัฐ”ยํ้า สังคมไทยมี “แหล่งความรู้” มากมายหลากหลาย แต่ที่ยังขาดคือ “การบริหารจัดการ” เพื่อดึงความรู้นั้นออกมาถ่ายทอดสู่วงกว้าง

 

3 เป้าหมายหลักเพื่อสร้างการเรียนรู้รูปแบบใหม่ของ OKMD คือ ต่อ
ยอดงานเดิมทั้งสถาบันอุทยานการเรียนรู้ หรือ TK Park และ สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ หรือ มิวเซียมสยาม ให้กว้างขวางและครอบคลุมยิ่งขึ้น

 

จับมือหน่วยงาน องค์กร ตลอดจนผู้ทรงภูมิ เพื่อช่วยให้ถ่ายทอด “องค์ความรู้”สู่สังคม และมุ่งขยายบริการในดิจิทัล แพลตฟอร์ม นำ “ความรู้” หลากหลายไปอยู่บนออนไลน์ ให้คนเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว เท่าเทียม ไม่มีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ เวลา

 

เพื่อพัฒนาคนไทยสู่สังคมสมรรถนะสูง รับทศวรรษใหม่ในยุคดิจิทัล และร่วมส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์

 

ทวารัฐ สูตะบุตร 
ผู้อำนวยการสำนักงานบริหาร
และพัฒนาองค์ความรู้ (OKMD)

 

คอลัมน์สปอตไลต์ หน้า 4 หนังสิอพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,838 วันที่ 24-26 พฤศจิกายน พ.ศ.2565