นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก กล่าวเตือนว่า ปัจจุบันมีกลุ่มมิจฉาชีพแอบอ้างรับจัดทำหรือต่ออายุใบอนุญาตขับรถบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ โดยเฉพาะบนเพจเฟซบุ๊ก ซึ่งมีเป็นจำนวนมาก พฤติกรรมของกลุ่มมิจฉาชีพจะมีลักษณะการแอบอ้างว่า สามารถออกใบอนุญาตหรือต่ออายุใบอนุญาต โดยไม่ต้องเดินทางไปที่สำนักงานขนส่ง หรือใช้คำว่า“รับทำใบขับขี่ ไม่ต้องสอบ ไม่ต้องอบรม รอรับได้เลย สนใจแชทจองคิว” พร้อมทั้งมีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการดำเนินการอยู่ที่ประมาณ 1,000 - 5,000 บาท เมื่อผู้เสียหายโอนเงินไปแล้ว มักเงียบหายหรือได้รับใบอนุญาตขับรถปลอม
อัตราค่าธรรมเนียมจริง (รวมค่าคำขอ) มีดังนี้
รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบกและโฆษกกรมการขนส่งทางบก ย้ำว่า การขอรับใบอนุญาตขับรถทุกชนิดมีมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ คือ ผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถต้องดำเนินการด้วยตนเองทุกขั้นตอนที่สำนักงานขนส่ง ตั้งแต่การตรวจสอบเอกสารการทดสอบสมรรถภาพของร่างกาย การอบรมการทดสอบข้อเขียน การทดสอบขับรถ และการถ่ายรูปเพื่อออกใบอนุญาตขับรถ ทั้งนี้ปัจจุบันการดำเนินการด้านใบอนุญาตขับรถทุกชนิด
ทั้งการขอใหม่ และการต่ออายุใบอนุญาตขับรถกรมการขนส่งทางบกมีบริการจองคิวล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue ซึ่งสามารถเลือกสำนักงานขนส่ง วันที่ และเวลาที่สะดวกได้ด้วยตนเอง
รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบกและโฆษกกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการขนส่งทางบกได้เปิดให้บริการเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่มีความประสงค์ต่ออายุใบอนุญาตขับรถและใบอนุญาตเป็นผู้ประจำรถที่อบรมออนไลน์ผ่านระบบ e-Learning ทางเว็บไซต์ www.dlt-elearning.com เรียบร้อยแล้ว สามารถนำบัตรประจำตัวประชาชน ใบอนุญาตขับรถฉบับเดิม ผลผ่านการอบรมออนไลน์ พร้อมใบรับรองแพทย์ เข้ารับบริการต่ออายุใบอนุญาตขับรถได้ โดยไม่ต้องจองคิวล่วงหน้า (walk in) ได้ทุกสำนักงานขนส่งทั่วประเทศ เริ่มตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
นอกจากนี้การขอรับใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล (ชนิด 2 ปี เป็น 5 ปี) สิ้นอายุไม่เกิน 1 ปี การขอรับใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ การขอรับใบแทนใบอนุญาตขับรถที่ชำรุด สูญหาย หรือขอแก้ไขรายการ การขอหนังสือรับรองใบอนุญาตขับรถเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ และการขอรับหรือขอต่อใบอนุญาตขับรถสาธารณะ
สามารถเข้ารับบริการได้ทั้งจองคิวล่วงหน้า และ walk in ได้เช่นเดียวกันทั้งนี้กรมการขนส่งทางบกเตือนประชาชนว่าอย่าหลงเชื่อกลุ่มมิจฉาชีพที่แอบอ้างรับจัดทำหรือต่อใบอนุญาตขับรถเด็ดขาด เสี่ยงโดนหลอกหรือได้รับใบขับขี่ปลอม ซึ่งหากนำไปใช้จะมีความผิดตามกฎหมายอาญา อีกทั้งเสี่ยงต่อการถูกนำข้อมูลส่วนตัวไปแอบอ้างทำธุรกรรมที่ผิดกฎหมาย