ประสานกับนานาชาติได้เท่าทัน-ทัดเทียม ยิ่งเพิ่มตามขึ้นไปให้
การตรวจลงตราหนังสือเดินทาง หรือวีซ่า เป็นอีกงานที่กรมการกงสุล เตรียมพร้อมรองรับ ช่องทางปกติผ่านสถานทูต สถานกงสุลใหญ่ไทย 99 แห่งทั่วโลก
ถ้าเดินทางมาแล้วและไม่ได้มีข้อตกลงการยกเว้นวีซ่า ก็มีบริการตรวจลงตราที่สนามบิน (VISA on Arrival)
เวลานี้มี e-VISA ที่สามารถเข้าระบบ กรอกข้อมูลพร้อมแนบตั๋วเครื่องบินยืนยันการเดินทาง ก็สามารถพิจารณาอนุมัติคำขอได้เลย พร้อมบริการได้วันละ 10,000 คน และกำลังขยายให้รองรับได้เพิ่มขึ้น
กรมการกงสุล ประสบความสำเร็จในการ “ปฎิวัติ”ระบบการทำหนังสือเดินทาง จากเกือบ 30 ปีก่อนที่ทั้งยาก แน่น ช้า มาเป็นง่าย เร็ว กระจายถึงหัวเมืองต่างจังหวัด หรือแหล่งชุมนุมชนใหญ่ เสร็จใน 3 วัน
ครม.เห็นชอบแต่งตั้งโยกย้าย “รุจ ธรรมมงคล” จากเอกอัครราชทูตไทยประจำคูเวต เป็นอธิบดีกรมการกงสุล ตั้งแต่ 1 ต.ค.2565
ก่อนหน้าเคยผ่านงานสถานทูตไทยในต่างประเทศ อาทิ รองกงสุลใหญ่ ณ กรุงดูไบ เอกอัครราชทูตไทย ประจำบันดาร์เสรีเบกาวัน บรูไนดารุสซาลาม เป็นต้น
เกาะติดพัฒนาการเทคโนโลยีเพื่อปรับใช้ให้ไทยอยู่แถวหน้าทันยุค ทั้งตู้คีออสทำหนังสือเดินทางออนไลน์ด้วยตนเองที่มาบุญครอง ศึกษา e-Passport ไม่ต้องมีเล่มกระดาษ ให้พร้อมใช้งานหากเป็นที่ยอมรับของนานาชาติ
พัฒนาระบบเอกสาร 2 ภาษา ให้เป็น “One Stop Service” โดยประสานจัดเจ้าหน้าที่ทะเบียนราษฎร หรือทะเบียนครอบครัว ให้มาประจำที่กรมการกงสุล พร้อมรับรองนิติกรณ์เอกสารได้ในที่เดียว ไม่ต้องเทียวไปเทียวมา
ยังมีเรื่องการดูแลคนไทย โดยเฉพาะที่ไปตกทุกข์ได้ยากในต่างแดน ที่่ติดตามกันใกล้ชิดยิ่งขึ้นด้วย e-Online และจะเพิ่ม QR Code ที่เล่มพาสปอร์ต
กรมการกงสุลยังต่อยอดงานบริการเพื่อคนไทยไม่หยุดยั้ง
นายรุจ ธรรมมงคล
อธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ
คอลัมน์ สปอตไลต์ หน้า 4 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,860 วันที่ 9-11 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566