วันวาเลนไทน์ ตรงกับวันที่ 14 ก.พ.ของทุกปี คนทั่วไปเรียกว่าวันแห่งความรัก โดยจะมีการมอบสิ่งของที่แสดงออกถึงความรักให้แก่กัน
อย่างไรก็ตาม ในระยะหลังมีความเข้าใจผิดเกิดขึ้นมากมายสำหรับวันวาเลนไทน์ โดยกลายเป็นวันที่แสดงความรักต่อกันผ่านการมีเพศสัมพันธ์
ทั้งนี้ จึงก่อให้เกิดปัญหาตามมาทั้งเรื่องของการติดโรคทางเพศสัมพัธ์ หรือการตั้งครรภ์โดยไม่ได้ตั้งใจ
"ถุงยางอนามัย" จึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการป้องกันปัญหา แต่ต้องใช้อย่างถูกวิธี
นายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยถึงแนวทางการเลือกถุงยางอนามัยที่ถูกต้อง ประกอบด้วย
สำหรับถุงยางอนามัยนั้น จัดเป็นเครื่องมือแพทย์ ต้องมีใบอนุญาตหรือใบรับแจ้งรายการละเอียดในการผลิตหรือนำเข้า ซึ่งตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2556 กำหนดให้มีมาตรฐานและข้อกำหนดตาม มอก. 625-2559 หรือ ISO 4074 : 2015 ซึ่งถุงยางอนามัยถือเป็นอุปกรณ์คุมกำเนิดที่นิยมใช้กันมากที่สุด
อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันมีความหลากหลายมากขึ้น เช่น มีความบาง มีหลายสี หลายกลิ่น และหลายพื้นผิว เพื่อตอบสนองความต้องการและความพึงพอใจของผู้ใช้ ซึ่งถุงยางอนามัยสามารถป้องกันการตั้งครรภ์โดยไม่พร้อม
และสามารถป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี (HIV) และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ เช่น โรคซิฟิลิส โรคหนองใน โรคหนองในเทียม โรคแผลริมอ่อน โรคกามโรคของต่อมและท่อน้ำเหลือง และโรคเริม เป็นต้น
นายแพทย์วิทิต กล่าวอีกว่า 14 กุมภาพันธ์ เทศกาลวันแห่งความรัก เป็นช่วงเวลาที่ใครหลาย ๆ คน ให้ความสำคัญกับการแสดงความรักในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งคู่รักหลายคู่มีการแสดงความรักด้วยการมีเพศสัมพันธ์ใน "วันวาเลนไทน์" อย. จึงตระหนักถึงความสำคัญของการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่มีการป้องกัน
หรือปัญหาการใช้ถุงยางอนามัยไม่ถูกต้องและไม่ได้มาตรฐาน เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงในการติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์ และการตั้งครรภ์โดยไม่พร้อม ซึ่งสิ่งที่สามารถป้องกันได้ง่ายและเป็นพื้นฐาน คือ การใช้ "ถุงยางอนามัย" ที่ถูกต้อง