เป็นสมัยที่ 24 ประจำปี 2566-2567 ซึ่งกรรมการบริหารชุดใหม่ทั้ง 31 คน ลงคะแนนด้วยมติเอกฉันท์ ให้นายจุลนิตย์ วังวิวัฒน์ เป็นประธานหอการค้าเชียงใหม่ สมัยที่ 24 เป็นสมัยที่สองติดต่อกัน
นอกจากตัวแทนองค์กรภาคเอกชน หน่วยงาน สถาบันต่างๆ ที่มาร่วมแสดงความยินดีแล้ว ยังมีนายนิตย์ วังวิวัฒน์ อดีตประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ สมัยที่ 6 มามอบช่อดอกไม้แสดงความยินดีกับลูกชายด้วย
ครอบครัว“วังวิวัฒน์” ออกมาทำงานแก่ภาคเอกชนเชียงใหม่ไม่ขาดสาย โดยช่วงเดียวกันนี้“จักริน วังวิวัฒน์” พี่ชายของ “จุลนิตย์” ก็นั่งเป็นประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ วาระปี 2565 – 2567 เช่นกัน
จุลนิตย์ เรียนจบสาขาบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่
เข้ามาบริหารธุรกิจครอบครัว ทั้ง“ชาระมิงค์” ไร่ชา 2,000 ไร่ที่“คุณตา”ได้สัมปทานจากกรมป่าไม้ ตั้งแต่ปี 2480 ที่อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ปลุกปั้นแบรนด์ชาไทยเจ้าแรกๆ
จากนั้นต่อยอดเป็นธุรกิจหลากหลาย อาทิ ร้านอาหารม่อนระมิงค์ ร้านชา Tea House เครื่องปั้นดินเผาสยามศิลาดล ธุรกิจจิวเวลรี่ De lann รวมถึงเป็นดีลเลอร์รถนิสสัน ประจำเชียงใหม่
พันธกิจในการเป็นประธานหอการค้าเชียงใหม่สมัยที่ 2 นี้ จุลนิตย์ย้ำ ภายในคือสร้างความเข้มแข็งให้สมาชิก สานต่อโครงการหอการค้า อะคาเดมี มีหลักสูตรยกทักษะให้ตรงความต้องการ เรียนปริญญาโทคู่ทำงาน และบัตรบางจากฟรีทการ์ด ลดภาระค่าน้ำมันให้สมาชิก
ภายนอกจะร่วมขับเคลื่อนงานพัฒนาพื้นที่ อาทิ ยุทธศาสตร์ระเบียงเศรษฐกิจภาคเหนือ (NEC-Northern Economic Corridor) ที่สำคัญคือการท่องเที่ยว ที่ทะยอยกลับมาเปิดดำเนินการ หลังโควิด-19 คลี่คลาย แม้หลายส่วนยังมีคำถามว่ายังไม่ค่อยเห็นผลได้นั้น ต้องรอเวลา คาดว่าผลจะเริ่มเห็นชัดในไตรมาส 4
รวมทั้งติดตามและผลักดันรัฐบาลใหม่หลังเลือกตั้ง ให้ทำตามสัญญาช่วงหาเสียง
จุลนิตย์ วังวิวัฒน์
ประธานกรรมการหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่
คอลัมน์สปอตไลต์ หน้า 4 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,876 วันที่ 6-8 เมษายน พ.ศ.2566