คดีสะเทือนขวัญแห่งปี “แอมไซยาไนด์” หรือ นางสรารัตน์ รังสิวุฒาพรณ์ ผู้ต้องหา"คดีฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน"และข้อหาลักทรัพย์ จากพฤติกรรมการนำสารเคมีไซยาไนด์มาใช้วางยาฆ่าคนตาย
ทั้งนี้จากการติดตามคดีของตำรวจ พบเหยื่อที่ยืนยัน แล้ว 14 ราย เสียชีวิต 13 ราย รอด 1 ราย และมีความเชื่อมโยงบุคคลรวม 19 คน ส่วนสาเหตุการก่อเหตุ ก็เพื่อสางหนี้ และเชื่อว่า ยังมีผู้ตกเป็นเหยื่อหรือเกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก
ความคืบหน้าล่าสุดพ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) เปิดเผยว่า ตำรวจได้ขอศาลอนุมัติหมายจับ น.ส.สรารัตน์ หรือ “แอม” รวม 3 ข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , พยายามฆ่า , ลักทรัพย์ โดยหมายจับมีทั้งหมด 11 คดี ประกอบด้วย
1.นางสาวศิริพร ขันวงษ์ หรือก้อย : ข้อหา ลักทรัพย์ (ส่วนข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เป็นเหตุให้ควบคุมตัวฝากขังในขณะนี้) เกิดเหตุ ราชบุรี
2.พ.ต.ต.หญิง นิภา แสนจันทร์ หรือ ปู ข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เกิดเหตุ นครปฐม (ออกหมายจับแล้ว)
3.นางสาวดาริณี เทพทวี หรือ ฟ้า : ข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เกิดเหตุ นครปฐม (ออกหมายจับแล้ว)
ส่วนที่เตรียมขอศาลออกหมายจับ
4.นายสุรัตน์ ทรทับ หรือ บี : ข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เกิดเหตุ กาญจนบุรี
5.นางสาวกะณิกา ตุลาเดชารักษ์ หรือ เอ๊ะ : ข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เกิดเหตุ ราชบุรี
6.นางสาวรสจรินทร์ นิลห้อย หรือ 'น้อย' : ข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เกิดเหตุ สมุทรสาคร
7.นางมณีรัตน์ พจนารถ หรือ ครูต่าย : ข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เกิดเหตุ นครปฐม
8.ร.ต.อ.หญิง กานดา โตไร่ หรือ นุ้ย : ข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เกิดเหตุ นครปฐม
9.นางสาวผุสดี สามบุญมี หรือ ครูอ๊อด : ข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เกิดเหตุ นครปฐม
10.นางกานติมา แพสอาด หรือ ปลา : ข้อหา พยายามฆ่า เกิดเหตุ กาญจนบุรี
ด้านทนายธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ ทนายความของแอม เปิดเผยว่า ตอนนี้ตนยังจะเดินหน้าทำคดีให้กับแอมต่อไป ไม่มีเหตุผลที่ต้องเปลี่ยนแปลง เพราะเป็นหน้าที่ของทนายความที่ต้องไม่ทอดทิ้งลูกความ ไม่เช่นนั้นจะเป็นการผิดมรรยาททนายความ และตนเองก็รับผิดชอบเพียงแค่คดีการเสียชีวิตของก้อยเพียงคดีเดียว ส่วนคดีอื่นตนยังไม่ได้ถูกว่าจ้าง ซึ่งแอมอาจจะไปจ้างทนายความคนอื่นก็ได้ ขึ้นอยู่กับความพอใจของลูกความ
ยืนยันว่าไม่ได้หนักใจ และตามกระบวนการของคดีอาญา จำเลยก็มีสิทธิที่จะต้องแก้ต่างในสิ่งที่โจทก์ฟ้องมา โดยการนำพยานหลักฐานมาคัดค้านพยานหลักฐานของฝ่ายโจทก์อยู่แล้ว ซึ่งตนยังมั่นใจในการต่อสู้คดีนี้ เพราะได้วางแนวทางเอาไว้แล้ว และตอนนี้ก็รู้ความบกพร่องของฝ่ายโจทก์ด้วยว่ามีข้อผิดพลาดอะไรบ้าง โดยตนเห็นผ่านสื่อตลอด ตอนนี้เพียงแค่นับถอยหลังรอเวลาเท่านั้น
ทั้งนี้ ตนยังไม่ได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยม ‘แอม’ ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง แต่ได้ให้เลขาฯ เข้าไปเยี่ยมแทนแล้ว ในสัปดาห์หน้า ตนจะเข้าไปซึ่งก็จะไปถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง สบายดีไหม แล้วจะบอกให้อดทนอยู่ให้ได้ ข้างนอกเดี๋ยวตนเคลียร์เอง
ส่วนกรณีที่มีบุคคลอื่นมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของตน รวมถึงคนที่เป็นทนายความด้วยนั้น ตนไม่ติดใจเพราะเข้าใจว่าการแสดงความคิดเห็นเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่ก็ต้องไม่ทำให้คนอื่นเสียหาย ไม่เช่นนั้นอาจจะมีความผิด และหากเป็นทนายความ ก็เป็นการผิดมรรยาททนายความด้วยเช่นกัน