ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา เกิดเหตุระทึกคานสะพานทรุดตัว จนทำให้คนงานก่อสร้างติดอยู่ด้านในหลายราย
ล่าสุด ตำรวจ สน.จรเข้น้อย ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณสะพานข้ามแยก หน้าห้างโลตัส สาขาลาดกระบัง ถนนหลวงแพ่ง แขวงทับยาว เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงได้การปิดกั้นบริเวณ ไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปยังด้านในได้ เบื้องต้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส จำนวน 3 ราย บาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน 4 ราย เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง อย่างไรก็ตามหากมีความคืบหน้า จะรายงานให้ทราบอีกครั้ง
เวลา 18.11 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยรายงานอัพเดทเพิ่มเติมว่า เหตุสะพานข้ามแยกทรุดตัว บริเวณหน้าโลตัส ลาดกระบัง เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยลาดกระบังถึงที่เกิดเหตุเบื้องต้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย
ข้อมูลผู้บาดเจ็บเบื้องต้นเหตุสะพานถล่มขณะนี้ รับแจ้ง 10 ราย รพ.จุฬารัตน์ 9 นำส่งแล้ว 4 ราย รพ.ลาดกระบัง นำส่งแล้ว 6 ราย
เบื้องต้นเสียชีวิต 1 ราย และอีก 1 รายอยู่ระหว่างค้นหา
เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา พ.ต.ท.ธิติพงศ์ วงษ์หนูพะเนาว์ สารวัตร (สอบสวน) สน.จรเข้น้อย พร้อมประสานสํานักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เข้าตรวจสอบอุบัติเหตุสะพานเหล็กรับน้ำหนักสะพานยกระดับ ขนาดใหญ่ ถล่มทับรถยนต์ มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บหลายราย หน้าปั๊ม ปตท. ถนนหลวงแพ่ง แขวงทับยาว เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ
โดยที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ก่อสร้างสะพานข้ามแยก กลางถนนดังกล่าว พบโครงเหล็กรับน้ำหนักขนาดใหญ่พังลงมาทับรถยนต์ที่สัญจร บนนถนนหลวงแพ่ง ฝั่งขาเข้า จำนวนหลายคัน ตลอดจนอาคารพาณิชย์ที่อยู่ใกล้เคียงได้รับความเสียหาย และสายไฟตามเส้นทางได้ขาด ส่งผลให้ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง จึงทำการปิดกั้นถนนทั้ง 2 ฝั่ง เกรงจะเกิดเหตุซ้ำซ้อน ทำให้มีการจราจรติดขัดเป็นทางยาว
เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย และผู้บาดเจ็บอีกหลายราย ทางเจ้าหน้าที่เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงทันที หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังระดมทำการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามหากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบอีกครั้ง
เกาะติดเหตุการณ์จาก สวพ.91
“ชัชชาติ” ตั้ง ศูนย์บัญชาการ สั่งห้ามกู้ภัยเข้ารื้อถอนโดยพลการ
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เดินทางมาติดตามความคืบหน้าพร้อมเปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่ต้องใช้ความระมัดระวังในการเข้าไปกู้ภัย เบื้องต้นมีผู้บาดเจ็บ 8 ราย แบ่งเป็นสาหัส 4 ราย ไม่สาหัส 4 ราย และเสียชีวิต 1 ราย เป็นวิศวะกร ซึ่งผู้บาดเจ็บ 8 รายยังไม่ใช่ตัวเลขที่แน่นอน ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงหากมีญาติตัวเองสูญหาย ขอให้โทรมาแจ้งเจ้าหน้าที่ ที่เบอร์ 199 เนื่องจากจุดเกิดเหตุเป็นถนนสาธารณะ อาจทำให้ยังมีประชาชนติดค้างอยู่ภายในได้
หลังจากนี้จะมีการตั้งศูนย์บัญชาการในการทำงาน ขอให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่ และขอย้ำว่าอาสาสมัครที่จะเข้ามาร่วมดำเนินการ ให้มารายงานตัวที่ศูนย์อำนวยการ เนื่องจากจุดเกิดเหตุยังมีสภาพไม่แน่นอน โครงสร้างที่พังลงมายังมีชิ้นส่วนที่ห้อยอยู่อาจจะมีการพังลงมาเพิ่มเติมได้
ส่วนการรื้อถอนจะต้องเป็นไปตามหลักวิศวกรรม โดยจะมีวิศวกรเข้ามาดูแลเนื่องจากสภาพโครงสร้างที่ทรุดลงมายังไม่มีความเสถียร อาจเกิดการพังทลายซ้ำ 2 ได้ ทางวิศวกร รวมถึงผู้รับเหมาที่เข้าใจสถานการณ์ และวสท. เข้ามาร่วมดำเนินการด้วย โดยการประเมินพื้นที่จะเริ่มตั้งแต่คืนนี้ เนื่องจากการประเมินพื้นที่จะรวมกับขั้นตอนของการกู้ภัยเข้าไปด้วย ไม่สามารถกู้ภัยโดยไม่มีการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญได้
ผบ.ตร.สั่งด่วนเตรียมทีมสอบสวนคดี จัดการจราจร ประสานส่วนเกี่ยวข้องช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โฆษกตร.) กล่าวว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งลงพื้นที่ตรวจสอบ ช่วยเหลือประชาชน อำนวยความสะดวกด้านการจราจร เร่งช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและตกค้าง พร้อมเตรียมทีมพนักงานสอบสวนไว้คอยอำนวยความสะดวกด้านคดี การสอบสวนต่างๆ โดยประสานการปฏิบัติกับเจ้าหน้าที่ กทม. เจ้าหน้าที่กู้ภัยและส่วนอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางการจราจรบริเวณดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ตำรวจจราจรกลาง และตำรวจทางหลวงได้ขึ้นป้ายประชาสัมพันธ์หลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าวแล้ว และขอให้ประชาชนให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในเรื่องการจราจร เพื่อเร่งช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ และตกค้างบริเวณดังกล่าวซึ่งเป็นภารกิจสำคัญและเร่งด่วน ที่กำลังดำเนินการ
เส้นทางเลี่ยง อุบัติเหตุทางยกระดับถล่ม ปิดทุกเลนหน้าโลตัส ถึง ทางเข้า สน.จรเข้น้อย
23.00 น. ความคืบหน้าเหตุคานสะพานยกระดับถล่ม ล่าสุด สน.จรเข้น้อย แจ้งประชาสัมพันธ์เส้นทางเลี่ยงการปิดการจราจร สืบเนื่องจากอุบัติเหตุทางยกระดับอ่อนนุช-ลาดกระบัง ถล่ม หน้าปั๊มน้ำมัน ปตท. ถนนหลวงแพ่ง ดังนี้
ขาเข้าเมือง ปิดการจราจรเด็ดขาด ตั้งแต่หน้าเทสโก้โลตัสหลวงแพ่ง ถึง ทางเข้า สน.จรเข้น้อย
เวลา 00.10 น. ความคืบหน้าอุบัติเหตุสะพานยกระดับอ่อนนุช-ลาดกระบัง ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างพังถล่มลงมาทับประชาชน และคนงานได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณหน้าห้างโลตัส สาขาลาดกระบัง ถนนหลวงแพ่ง เบื้องต้นมีรายงานผู้บาดเจ็บทั้งสิ้น 13 คน ถูกนำส่งโรงพยาบาลเร่งด่วน
ในจำนวนนี้ 1 คนเสียชีวิตที่โรงพยาบาล นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิตอีก 1 คน ทราบชื่อต่อมาคือนายฉัตรชัย ประเสริฐ รวมผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ ณ เวลาปัจจุบันคือ 2 คน
โดยนายอัญวุฒิ โพธิ์อำไพ รองหัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ มูลนิธิร่วมกตัญญู เปิดเผยว่า ร่างของนายฉัตรชัย คาดว่าน่าจะเสียชีวิตจากการตกจากที่สูง เนื่องจากร่างผู้เสียชีวิตนอนอยู่กลางถนน ไม่มีเศษปูนหรือโครงสร้างทับตามร่างกาย
ดังนั้นจึงอาจตกลงมาจากคานที่ถล่ม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลตำรวจต่อไป
อย่างไรก็ตามยังเหลืออีก 2 จุดที่เจ้าหน้าที่ยังเข้าไปพิสูจน์ทราบไม่ถึงว่ามีผู้ติดค้างอยู่หรือไม่
จุดแรกคือบริเวณรถยนต์ที่ถูกคานปูนทับจนแบน มองไม่เห็นว่ามีใครอยู่ในรถหรือไม่
และอีกจุดคือบริเวณใกล้เสาด้านในที่โครงสร้างถล่ม ที่มีผู้ถ่ายรูปว่าเห็นร่างคนติดอยู่ แต่เจ้าหน้าที่ยังเข้าไปไม่ถึงจุดดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่จะเร่งทยอยนำอุปกรณ์เข้าตรวจสอบโดยเร็วหากประเมินแล้วว่าโครงสร้างม่ความปลอดภัย
ส่วนความเสียหายอื่นๆ มีรถยนต์ถูกโครงสร้างทับพังเสียหาย 4 คัน รถจักรยานยนต์ 7-8 คัน และบ้านเรือนประชาชนริมถนนได้รับความเสียหาย
เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 11 ก.ค. นายชัชชาติสิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำรถเครนขนาด 200 ตัน ของ บริษัทโปรเครน แอนด์ ทรานส์ จำกัด และรถเครนขนาด 50 ตัน ของ บริษัทธนดลเครน จำกัด เข้าสู่พื้นที่ เหตุการณ์สะพานยกระดับอ่อนนุช-ลาดกระบัง ถล่ม
โดยเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันเร่งเก็บกู้ซากปรักหักพัง ด้วยการนำเหล็ก เศษ แท่งคอนกรีต และ อุปกรณ์อื่นๆที่พังถล่มลงมากีดขวางผิวการจราจรขึ้นสู่รถบรรทุก นำออกไปไว้ยังจุดที่ปลอดภัย อย่างไรก็ตามเชื่อว่า ตลอดค่ำคืนนี้จนถึงรุ่งเช้า ก็จะยังไม่สามารถดำเนินการได้เสร็จสิ้นทัน เนื่องจากการทำงานเป็นไปด้วยความยากลำบาก ส่งผลให้ระยะเวลาในการเปิดเส้นทางการจราจร ต้องยืดออกไปอีก
รายชื่อผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ (ณ 08.25 น. วันที่ 11 ก.ค.66)
รายชื่อผู้เสียชีวิต 2 ราย
1.นายอรัญ สังขรักษ์ อายุ 24 ปี คนงานของโครงการ เสียชีวิตที่ รพ.จุฬารัตน์ 9
2.นายฉัตรชัย ประเสริฐ วิศวกรโครงการ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
รายชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บ 17 ราย
ส่งโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 รวม 8 ราย
1.น.ส.รัชนี นาคทรงแก้ว อายุ 46 ปี
2.นายธนดล คลังจินดา อายุ 47 ปี
3.น.ส.อุไรวรรณ วะเรืองรัมย์ อายุ 38 ปี
4.นายศุภชัย พวงยี่โถ อายุ 15 ปี
5. นายอรัญ สังข์รักษ์ อายุ 24 ปี
ส่งโรงพยาบาลลาดกระบัง 2 รวม 9 ราย
1.นายพรรษา พวงยี่โถ อายุ 43 ปี
2.นายศรศักดิ์ เหมือนพร้อม 26 ปี
3.นายสุเทพ สุวรรณทา
4.นายวีสิทธ์ แจ้งทา อายุ 35 ปี
5.นายทัศนัย รัตนแสง อายุ 31 ปี
6.น.ส.มัจฉา เสียวสุข อายุ 25 ปี
7.นายณัฐพงษ์ มัคยุโสม
8.นายอารักษ์ กิ่งคำ อายุ 59 ปี
เจ้าหน้าที่เร่งตัดโครงสร้างเหล็กทีละท่อน คาดใช้เวลา 7 วัน เปิดการจราจร
เวลา 12.30 น. ความคืบหน้า ภายหลังเกิดเหตุสะพานยกระดับอ่อนนุช-ลาดกระบัง ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างพังถล่มลงมาทับประชาชน บริเวณถนนหลวงแพ่ง ช่วงเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งเคลียร์ซากปรักหักพัง โดยเฉพาะโครงสร้างค่นเหล็กที่ถล่มลงมา
โดยนายณรงค์ เรืองศรี รองปลัดกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายชัชชญา ขำจันทร์ ผู้อำนวยการเขตลาดกระบัง เดินทางลงพื้นที่มายังจุดเกิดเพื่อร่วมประเมินวางแผนการเคลื่อนย้ายโครงสร้างที่ถล่มร่วมกับเจ้าหน้าที่วิศวกร บอกว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ตั้งแต่เมื่อวานนี้ ผู้บริหารกรุงเทพมหานครได้เข้ามาดูในพื้นที่ และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้มีข้อสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการทำงานร่วมกันในการแก้ไขปัญหา ซึ่งสิ่งที่ต้องเร่งรัดในตอนนี้ คือการเร่งรื้อโครงสร้างที่เกิดความเสียหาย ไปกระทบกับการจราจรและเกิดความเสี่ยงต่อประชาชนในพื้นที่
ขณะนี้มีการวางแผนการรื้อย้ายโครงสร้างกับสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร และบริษัทผู้รับเหมา ซึ่งอันดับแรกจะเร่งเคลียร์พื้นที่ในส่วนที่กีดขวางการจราจร เพื่อให้เปิดใช้งานได้เร็วที่สุด ส่วนที่เหลืออื่นๆ เป็นแผนการดำเนินการต่อจากนี้ ว่าจะมีการซ่อมแซมแก้ไขต่อไปอย่างไร
ซึ่งตอนนี้ได้มีการเตรียมเครื่องจักรเป็นรถเครนขนาด 200 ตัน และ 50 ตัน เพื่อจะมาช่วยในการยกพยุงตัวโครงสร้าง และตัดชิ้นส่วนที่เสียสภาพเพื่อทำการเคลื่อนย้ายออกไป
และการที่ต้องตัด เพราะโครงสร้างมีขนาดใหญ่ ประกอบกันขึ้นมา ทำให้มีความยาวและน้ำหนักมาก ยากต่อการเคลื่อนย้าย ซึ่งในการแบ่งออกเป็นชิ้นนั้น จะใช้วิธีการถอดน็อตตามโครงสร้างที่ประกอบไว้ แต่หากส่วนไหนถอดไม่ได้หรือถอดยาก ก็จะใช้แก๊สเป่าให้ขาด ซึ่งระหว่างการดำเนินการถอดแบ่งชิ้นส่วน ต้องใช้เครนขนาดใหญ่ยกถ่วง และใช้เครนตัวเล็กพยุงไว้ให้ทำงานได้ปลอดภัย
ทั้งนี้ อุปสรรคสำคัญคือเรื่องสภาพพื้นที่ที่มีจำกัด ทำให้การทำงานอาจไม่คล่องตัวเท่าที่ควร และต้องระมัดระวังในจุดที่อยู่ใกล้กับปั๊มน้ำมัน โดยต้องมีการวัดแก๊สตลอดเวลา ซึ่งจากกการประเมินคร่าวๆ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 7 วันจะสามารถเคลียร์พื้นที่ส่วนที่กีดขวางการจราจรได้ทั้งหมด
สำหรับสาเหตุของเหตุการณ์ในครั้งนี้ ยังต้องรอการวิเคราะห์ข้อมูลหลายส่วนประกอบกัน โดยวันนี้จะนำโดรนขึ้นไปถ่ายภาพมุมสูงเพิ่มเติม เพื่อนำมาวิเคราะห์การเคลื่อนตัวของโครงสร้างร่วมกับภาพที่ได้ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ได้สั่งระงับการก่อสร้างโครงการดังกล่าวโดยไม่มีกำหนดระยะเวลา จนกว่าจะสามารถหาแนวทางการแก้ไขได้อย่างปลอดภัยถูกต้องตามหลักวิศวกรรม
ขณะที่นายชัชชญา ขำจันทร์ ผู้อำนวยการเขตลาดกระบัง กล่าวว่า ล่าสุดได้รื้อถอนชิ้นส่วนบริเวณส่วนปลายชิ้นแรกออกไปแล้ว และไล่ตัดจากทางปลาย เข้ามาทางโคน ฝั่งที่พาดมาทางปั๊มน้ำมัน โดยมีสำนักการโยธา และบริษัทก่อสร้างในการควบคุม อาจจะใช้เวลาหน่อย
และแผนหลังการเคลื่อนย้ายออกแล้ว ก่อนจะให้ประชาขนสัญจรได้ จะต้องประเมินความปลอดภัย ความมั่นคงแข็งแรงจะต้องมีแผนก่อน ก่อนที่จะดำเนินการก่อสร้างต่อไป เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับประชาชนม
ขณะที่การเยียวยา ผู้รับเหมาก่อสร้างมีประกันอุบัติเหตุ สำนักงานเขตลาดกระบังจะติดตามผู้ที่ได้รับความเสียหายก็ให้มาแจ้งไว้ และทางเขตฯก็จะประสานประกันภัยเข้ามาให้การช่วยเหลือ
ส่วนเรื่องเส้นทางการจราจร ได้มีการประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสน. จรเข้น้อยเพื่อแก้ไขปัญหา เนื่องจากต้องมีการปิดการจราจรบางส่วนทั้งฝั่งขาเข้าขาออก โดยฝั่งขาเข้ามีการเปิดซอยทางลัดที่ซอยหลวงแพ่ง 6 และซอยหลวงแพ่ง 8 ไปออกที่ซอยหลวงแพ่ง 4 ส่วนขาออกมีซอยทางเชื่อมบริเวณตรงข้ามจุดเกิดเหตุ ซึ่งตั้งแต่เมื่อช่วงเช้ายังไม่มีปัญหาการจราจร
สอบปากคำพยานสะพานถล่มแล้ว 7 ปาก คนเจ็บกลับบ้านได้แล้ว 4 คน
เวลา 16.55 น. พ.ต.อ.พรรณลบ สำราญสม ผกก.สน.จรเข้น้อย เผยความคืบหน้าการสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องจากเหตุทางยกระดับอ่อนนุช-ลาดกระบัง พังถล่มลงมาทับรถจนมีผู้คนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตวานนี้ว่า ล่าสุดได้สอบปากคำพยานต่างๆ ไปแล้ว 7 ปาก มีทั้งพยานที่ได้รับบาดเจ็บและผู้ที่เห็นเหตุการณ์ ส่วนผู้บาดเจ็บมี 8 ราย กำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 4 ราย แพทย์ปล่อยกลับบ้านแล้ว 4 ยอดผู้เสียชีวิตยังคงมี 2 ราย โดยญาติกำลังติดต่อเข้ารับศพที่นิติเวช รพ.ตำรวจ
สำหรับการเฝ้าติดตามการจราจร หลังประชุมกับ ผอ.เขตลาดกระบัง จะงดใช้เส้นทางร้อยเปอร์เซนต์เป็นช่วงเวลาหนึ่ง หากการจราจรหนักคงจะผ่อนผัน เปิดบางช่องทาง ทั้งนี้หากประชาชนไม่มีความจำเป็นก็ขอให้หลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว
ส่วนเรื่องคดีความกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหา พร้อมตั้งคณะทำงานสอบสวนเพื่อสอบปากคำ โดยตอนนี้กำลังติดต่อผู้รับเหมาก่อสร้างไปสอบปากคำที่โรงพัก แต่เจ้าตัวยังคงต้องเร่งกู้ซาก และยังไม่ได้พูดคุยเรื่องการชดเชยค่าเสียหาย
ชัชชาติ สั่งระงับโครงการตั้งเป้าเปิดการจราจรใน 3 วัน
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงข่าวเหตุการณ์โครงสร้างสะพานทางยกระดับอ่อนนุช-ลาดกระบัง ที่อยู่ระหว่างก่อสร้างเกิดเหตุโครงสร้างสะพานวิบัติ โดยกล่าวว่า โครงการดังกล่าว กิจการร่วมค้า ธาราวัญ-นภา เป็นผู้รับจ้าง สัญญาเลขที่ สนย.11/2564 ช่วงเวลาก่อสร้างสัญญา กุมภาพันธ์ 2564 ถึง 11 สิงหาคม 2566 (ได้รับการช่วยเหลือตามมาตรการช่วยเหลือโควิด ค่าปรับ ร้อยละ 0 ถึงวันที่ 17 ธันวาคม 2567) ระยะเวลาก่อสร้าง 900 วัน วงเงินตามสัญญา 1,664.55 ล้านบาท
ลักษณะโครงการ ระยะทางรวมประมาณ 3,500 ม. ก่อสร้างทางยกระดับ ขนาด 4 ช่องจราจร ก่อสร้างปรับปรุงสะพาน ค.ส.ล. ข้ามคลองหนองปรือ 1 แห่ง ก่อสร้างระบบระบายน้ำ ไฟฟ้าแสงสว่าง จราจรสงเคราะห์ และอื่นๆ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 ก.ค. 2566 เวลา 17:40 น. บริเวณหน้าปั๊มน้ำมัน ปตท. ถนนหลวงแพ่ง เขตลาดกระบัง ซึ่งเกิดจากโครงสร้างสะพาน (Box Segment) วิบัติ ขณะดึงลวดอัดแรงส่งผลให้ Launching Truss เสียสมดุล และล้มพับทับโครงสร้างสะพานเสียหาย 1 ช่วงสะพาน ระหว่าง โครงสร้างที่ 83 และ 84 ทำให้ชิ้นส่วนสะพาน และ Truss กีดขวางช่องจราจรฝั่งขาเข้าทั้ง 2 ช่องจราจร
สถานการณ์เมื่อคืนเวลาประมาณ 00.00 น. ได้สั่งการให้เตรียมรื้อถอนก็พาบริษัทผู้รับเหมาเข้ามา ซึ่งมีอยู่ 3 ส่วนที่เกี่ยวข้องกับผู้รับเหมาหลัก ผู้รับเหมาทำ Truss หรือเรียกว่า Launcher และผู้รับเหมาที่ดึงลวด รวมทั้งหน่วยบรรเทาสาธารณภัยเข้าไปปูพรมตรวจอีกครั้งหนึ่ง ให้มั่นใจก่อนว่าไม่มีใครติดอยู่ข้างล่าง การดำเนินการใช้วิธียกเครนโดยเอาเครน 200 ตัน 3 ตัว มายกชิ้นส่วน Truss ด้านบนก่อน ชิ้นส่วนหนักประมาณ 7 ตัน 4 ชิ้น
เมื่อเช้าเริ่มยกเวลาประมาณ 07.00 น. และจะทยอยยกไปคาดว่าวันนี้น่าจะแล้วเสร็จ ซึ่งในการรื้อถอนต้องระวังว่าสภาพที่ไม่เสถียร หากรื้อถอนแล้วอาจจะมีน้ำหนักที่เอาออก แล้วทำให้เกิดการเสียสมดุลอาจมีการหล่นลงมาอีก ต้องมีการค้ำยันให้ดีก่อนต้องทำในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป
ขณะนี้ได้มอบหมายสำนักการโยธาดูแลเรื่องการรื้อถอนโดยเป็นผู้กำกับดูแลผู้รับเหมา จากนั้นต้องประเมินสภาพโครงสร้างและการดำเนินโครงการต่อ ผู้อำนวยการเขตดูแลเรื่องการจราจร เนื่องจากปัจจุบันมีการปิดการจราจรทั้ง 2 ทาง รวมทั้งดูแลคนในพื้นที่เพราะยังมีบ้านบางหลังที่ไฟเข้าไม่ถึง หมู่บ้านสัมมากรที่อยู่หน้าปั๊มก็ไม่สามารถเอารถเข้าออกได้ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยดูแลในพื้นที่ กรณีอาจจะมีเหตุเพลิงไหม้เนื่องจากมีปั๊มน้ำมันอยู่ใกล้ๆ กรณีอาจจะพบผู้บาดเจ็บต่างๆ รวมถึงเตรียมความพร้อมอุปกรณ์ดับเพลิง โรงพยาบาลลาดกระบังดูแลผู้บาดเจ็บ
“ตอนนี้ขอเคลียร์พื้นที่ให้เรียบร้อยก่อน โดยตั้งเป้าเปิดการจราจรภายใน 3 วัน หลังจากนั้นคงมีขั้นตอนทางกฎหมายที่ต้องดำเนินการต่อไป ส่วนโครงการต้องระงับก่อสร้างจนกว่าจะมีแผนการก่อสร้างที่รับได้”
นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เสาที่หักคือตัวที่ 83 และ 84 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือ Launcher ที่เป็นตัวรับน้ำหนักโครงสร้างสะพาน (Box Segment) เพื่อเรียงต่อกัน และร้อยสลิง ระหว่างการเกิดเหตุการทำงานของตัว Launcher มีการพลิก หรืออาจเกิดการไม่สมดุลตรงนี้ก็อาจทำให้เกิดเหตุ จะได้วิเคราะห์สาเหตุเบื้องลึกอีกครั้งโดยร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ
ส่วนที่มีข่าวว่า กทม. ไปสั่งให้เปลี่ยนวิธีการก่อสร้าง เรียนชี้แจงว่า ในรูปแบบของการประกวดราคาในครั้งนี้ สำนักการโยธาใช้เป็นรูปแบบของการหล่อโครงสร้างในพื้นที่แต่ได้เปิด TOR ไว้ว่า สามารถเสนอเป็นรูปแบบหล่อสำเร็จก็ได้ ซึ่งทางผู้รับจ้างในช่วงต้นก็ทำการก่อสร้างเป็นรูปแบบหล่อในพื้นที่ แต่เนื่องวิธีนี้ค่อนข้างเก่าและมีผลกระทบต่อการจราจร ต้องใช้เวลาในการก่อสร้างค่อนข้างนานและประกอบกับระยะเวลาการก่อสร้างของผู้รับจ้างล่าช้า ผู้รับจ้างจึงขอเปลี่ยนเป็นการหล่อสำเร็จเพื่อยกไปติดตั้งในสถานที่ก่อสร้าง ซึ่งเป็นวิธีการก่อสร้างทั่วไป โดยทำเรื่องขออนุญาตมาที่สำนักการโยธาเมื่อเดือนกันยายน 2565 หลังจากการตรวจสอบก็มีการพิจารณาแบบเมื่อเดือนตุลาคม 2565
รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นผู้เสียชีวิตในพื้นที่เกิดเหตุ 1 ราย เสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งบาดเจ็บมากและบาดเจ็บเล็กน้อย 12 ราย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 และโรงพยาบาลลาดกระบัง ขณะนี้มีผู้ป่วยกลับบ้านไปบ้างแล้วและมีผู้ป่วยที่ยังอยู่ในโรงพยาบาล ในขณะเดียวกันมี 2 รายที่บาดเจ็บแล้วขอส่งตัวจากโรงพยาบาลลาดกระบัง ไปโรงพยาบาลหัวเฉียว และโรงพยาบาลพุทธโสธร อยู่ในระหว่างการรักษาพยาบาลทั้ง 2 ราย พร้อมกันนี้ได้รับแจ้งจากสำนักพระราชวังว่าพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวกรุณารับผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้ที่เสียชีวิตเป็นคนไข้ในพระราชูปถัมภ์
ส่งสุนัข 4 ตัว ค้นหาผู้เสียชีวิต หลังได้กลิ่นต้องสงสัยใต้ซากสะพานถล่ม
วันที่ 14 ก.ค. 66 ช่วงบ่ายที่ผ่านมา นางสาว สิริสรา เจียมวงศ์แพทย์ รองนายกสมาคมผู้เลี้ยงสุนัขพันธุ์เยอรมันเช็พเพอดแห่งประเทศไทย (ส.ส.ย.ท.) นำสุนัข จำนวน 4 ตัว เป็นพันธุ์เยอรมันเช็พเพอด 2 ตัว ลาบราดอร์ 1 ตัว และพิตบูล 1 ตัว ซึ่งเป็นสุนัขผ่านการฝึกกู้ภัย ร่วมภารกิจค้นหาร่างผู้เสียชีวิต หลังเจ้าหน้าที่พบมีกลิ่นต้องสงสัยคล้ายศพบริเวณจุดเกิดเหตุภายใต้ซากสะพานถล่ม
น.ส.สิริสรา กล่าวว่า แนะนำสุนัขมาทั้งหมด จำนวน 4 ตัว โดยจะส่งเข้าไปทีละตัว แต่ละตัว จะมีการฝึกค้นหาผู้เสียชีวิต และผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ โดยแต่ละตัวจะมีการฝึกวิธีการแจ้งเตือน และวิธีสงสัยต่างกัน โดยทางผู้ควบคุมจะสังเกตอาการของสุนัขตัวเองว่า แสดงพฤติกรรมอย่างไร และจะช่วยกันประเมินจากภาษากายของสุนัข
ส่วนการสังเกตขณะฝึก เมื่อเจอคนที่ยังมีชีวิตอยู่จะมีการเห่า แจ้งเตือน และหากพบว่า มีผู้เสียชีวิต ทางสุนัขจะจ้อง หรือหมอบ หรือนั่ง แล้วแต่พื้นที่ บางตัวจะขุดคุ้ย ส่วนถ้าพบว่ากลิ่นต้องสงสัยดังกล่าวเป็นซากสัตว์ หรือไม่ใช่คนนั้น โดยปกติแล้วการฝึกสุนัข จะใช้เฉพาะกับศพคนจริงๆเท่านั้น