ผบ.ตร.สั่งตำรวจทั่วประเทศรับมือน้ำท่วมออกช่วยเหลือประชาชนทันท่วงที

วันนี้ (22 ก.ค.66) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศจร.ตร.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนัก มีน้ำท่วมขัง ลมกรรโชกแรงในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ส่งผลกระทบต่อประชาชนที่ใช้เส้นทางสัญจร 

ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศ แจ้งให้พี่น้องประชาชนระมัดรวะวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากหลายพื้นที่ ในช่วงวันที่ 22 - 25 กรกฎาคม 2566 นั้น พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  (ผบ.ตร.) สั่งการให้ตำรวจทั่วประเทศติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และให้เข้าช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างทันท่วงที 

พล.ต.ท.นิธิธร กล่าวว่า ผบ.ตร.สั่งการให้ตำรวจทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชน 

โดยเฉพาะด้านการจราจร สั่งการผ่าน ศจร.ตร. ให้จัดกำลังตำรวจจราจรลงพื้นที่อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมขัง เส้นทางสำคัญ ให้แจ้งทางเลี่ยง เส้นทางแนะนำแก่ประชาชน พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือกรณีรถขัดข้องอย่างทันท่วงที 

“ตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 21 กรกฎาคม ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ (22 ก.ค.) ศจร.ตร. รับรายงานว่า ยังมีน้ำท่วมขังบางจุดใน กทม.และปริมณฑล รวมถึงหลายจังหวัดทั่วประเทศ โดยตำรวจจราจรได้ระดมกำลังออกไปอำนวยการจราจร ให้ความช่วยเหลือ แก้ไขสถานการณ์ บรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน และช่วยตรวจสอบท่อระบายน้ำต่าง ๆ ที่มีเศษใบไม้ ขยะ เข้าไปติดขวางทางน้ำ โดยช่วยนำออก เพื่อให้การระบายน้ำรวดเร็วขึ้น 

และในวันนี้ก็เตรียมพร้อมออกช่วยเหลือดูแลประชาชนอย่างเต็มกำลัง โดย ผบ.ตร.ได้ชมเชยตำรวจทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลประชาชน และกำชับให้ทำต่อไป เป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกสถานการณ์ ” พล.ต.ท.นิธิธร กล่าว

พล.ต.ท.นิธิธร กล่าวย้ำว่า ประชาชนสามารถสอบถาม แจ้งขอความช่วยเหลือ และแจ้งเหตุขัดข้องด้านการจราจร ได้ที่  

• โทร. 191 จราจรทุก สน./สภ.  

• โทร. 1197 ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล สายด่วนตำรวจจราจร

• โทร. 1193 ตำรวจทางหลวงทั่วประเทศ

“ตำรวจพร้อมช่วยเหลือท่าน และขอประชาสัมพันธ์ให้ขับขี่ด้วยความไม่ประมาท ลดความเร็ว และเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเองและเพื่อนร่วมทาง” หัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร ศจร.ตร.กล่าว