นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การจัดสรรประชารัฐสวัสดิการวงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 จำนวนวงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะรวม 750 บาทต่อคนต่อเดือน
ทั้งนี้ สามารถใช้โดยสารได้กับระบบขนส่งสาธารณะโดยไม่จำกัดวงเงินตามประเภทรถ ได้แก่
ซึ่งปัจจุบันผู้ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติตามโครงการฯ สามารถใช้บริการโดยสารระบบขนส่งสาธารณะได้เฉพาะระบบขนส่งสาธารณะลำดับที่ (1) – (4) เท่านั้น ดังนั้น เพื่อให้การจัดสรรสวัสดิการครอบคลุมถึงระบบขนส่งสาธารณะตามข้อ (5) – (8) กระทรวงการคลังได้ร่วมกับหน่วยงานภายใต้กระทรวงคมนาคม ได้แก่ กรมการขนส่งทางบก และกรมเจ้าท่า
“ขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะตามข้อ (5) – (8) ที่ประสงค์จะสมัครเป็นผู้ให้บริการแก่ผู้มีสิทธิตามโครงการฯ สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการดังกล่าว และหากดำเนินการแล้วเสร็จตามขั้นตอน ผู้ประกอบการจะสามารถเปิดให้บริการรับชำระเงินจากผู้มีสิทธิตามโครงการฯ ได้”
สำหรับผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะตามข้อ (5) – (8) ทุกรายที่มีความประสงค์จะสมัครเป็นผู้ให้บริการแก่ผู้มีสิทธิตามโครงการฯ จะต้องติดต่อขอรับแบบฟอร์มการสมัคร และสมัครผ่านหน่วยงานกำกับดูแลเท่านั้น โดยมีรายละเอียดการสมัคร ดังนี้
1. ผู้ประกอบการรถเอกชนร่วม ขสมก. รถเอกชน และส่วนราชการกรุงเทพมหานคร รถเอกชนร่วม บขส. และรถเอกชน และรถสองแถวรับจ้าง (ลำดับที่ (5) – (7))
สามารถสมัครเพื่อเข้าร่วมเป็นผู้ให้บริการแก่ผู้มีสิทธิตามโครงการฯ ได้ที่สำนักการขนส่งผู้โดยสาร กรมการขนส่งทางบก โทร. 02 271 8522 ต่อ 3508 หรือสำนักงานขนส่งจังหวัด (วันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 08.30 – 16.30 น.)
2. ผู้ประกอบการเรือโดยสารสาธารณะ (ลำดับที่ (8)) สามารถสมัครเพื่อเข้าร่วมเป็นผู้ให้บริการแก่ผู้มีสิทธิตามโครงการฯ ได้ที่สำนักมาตรฐานทะเบียนเรือ กรมเจ้าท่า โทร. 02 233 1311 ต่อ 288 หรือสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขา (วันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 08.30 – 16.30 น.)
ทั้งนี้ การสมัครเข้าร่วมเป็นผู้ให้บริการแก่ผู้มีสิทธิตามโครงการฯ สำหรับผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะจะเริ่มรับสมัครตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2566 เป็นต้นไป โดยยังไม่ได้มีการกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดในการรับสมัคร หากผู้ประกอบการมีความประสงค์และมีความพร้อมสามารถสมัครผ่านหน่วยงานกำกับดูแลได้อย่างต่อเนื่อง
และหากผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะดำเนินการแล้วเสร็จตามขั้นตอนผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะจะสามารถเปิดให้บริการรับชำระเงินจากผู้มีสิทธิตามโครงการฯ ได้ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป (ทั้งนี้ เป็นไปตามเงื่อนไขที่กระทรวงการคลังกำหนด)