ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กำลังจะเดินกลับประเทศไทยวันที่ 22 ส.ค. 66 ด้วยเครื่องบินเจ็ท Gulfstream รุ่น G 650 ลำใหม่ล่าสุดของทักษิณ ซึ่งเป็นเครื่องบิน Bussiness Jet ที่จะทำการบินเส้นทางบิน สิงคโปร์-ดอนเมือง ในเวลา 09.00 น. โดยลงจอดที่อาคารไพรเวท เจ็ท ( M-JET) ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง
ทั้งนี้ ประเด็นที่ได้รับความสนใจก็คือ M-JET คืออะไร เหตุใดถึงต้องไปลงจอดที่นั่น ผู้ใดสามารถใช้งานได้บ้าง
จากการตรวจสอบข้อมูลของ "ฐานเศรษฐกิจ" พบว่า
ทักษิณกลับไทยด้วยรูปแบบการบินแบบวีไอพี คือ การทำการบินแบบไพเวทเจ็ท ซึ่งจัดว่าเป็นเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟล์ต) เข้าไทย สำหรับผู้โดยสารระดับไฮเอนด์ที่ต้องเดินทางอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่นักธุรกิจ ตลอดจนดาราฮอลลีวูด
บริการเข้า-ออกไทยแบบวีไอพี
ปัจจุบันผู้ให้ไพเวทเจ็ท รวมถึงผู้ให้บริการอากาศยานส่วนบุคคล (ไพเวทเจ็ท เทอร์มินัล) ในประเทศไทย คือ บริษัท เอ็มเจ็ท จำกัด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งธุรกิจของไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ MINT ซึ่งให้บริการอยู่ภายในท่าอากาศยานดอนเมือง
โดยเอ็มเจ็ทจะมีเครื่องบินไพเวทเจ็ทไว้ให้บริการลูกค้าทั้งที่เดินทางออกจากประเทศไทยและเดินทางเข้าไทย ด้วยเครื่องบินหรูอย่างเครื่อง Cessna Citation Bravo, Cessna Citation CJ3, Gulfstream G200, Gulfstream GV และเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวเร็วที่สุดในโลกอย่าง Cessna Citation X
อย่างไรก็ดี นอกจากฝูงบินของเอ็มเจ็ทเองแล้ว เอ็มเจ็ทยังให้บริการจัดหาเครื่องเช่าเหมาลำทุกขนาดได้จากพันธมิตรทั่วโลก
สำหรับลูกค้าเอ็มเจ็ทจะได้รับความสะดวกสบายสูงสุดตลอดการเดินทาง ตลอด 24 ชั่วโมง โดยบริการเหล่านี้จะรวมไปถึงการอํานวยความสะดวกด้านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร แบบรวดเร็วพิเศษ เมื่อทำการบินเข้าไทยและการกำหนดตารางเวลาตามความต้องการของลูกค้าด้วย
ผู้ที่เป็นเจ้าของไพเวทเจ็ท หรือ เช่าเครื่องไพเวทเจ็ท จากบริษัทอื่น จะทำการบินเข้าไทย ก็จะต้องมาใช้บริการภาคพื้นดิน และห้องรับรองพิเศษ ซึ่งเอ็มเจ็ท ให้บริการอากาศยานส่วนบุคคล หรือไพรเวทเจ็ทอยู่ โดยมีศูนย์ปฏิบัติการอยู่ที่สนามบินดอนเมือง
ท่าอากาศยานส่วนบุคคลของเอ็มเจ็ทประกอบไปด้วย โรงเก็บเครื่องบินส่วนตัวสองโรง ขนาดรวมกันถึง 52,000 ตาราฟุต พร้อมห้องรับรองวีไอพีสุดหรูขนาด 3,400 ตารางฟุต สามารถรองรับผู้โดยสารได้มากถึง 70 คน
อีกทั้งยังมีห้องห้องประชุม และห้องรับรองส่วนบุคคล เพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้โดยสาร และสะดวกสบายด้วยห้องอาบน้ำและห้องแต่งตัว ห้องพักลูกเรือ
นอกจากนี้ ยังมีทีมบริการภาคพื้นดินที่ให้การต้อนรับและพาผู้โดยสารเข้ารับบริการ พร้อมดูแลอย่างใกล้ชิด โดยผู้โดยสารสามารถพักผ่อนอย่างสบายได้ที่เลาจน์วีไอพี ซึ่งทางเอ็มเจ็ทจะเป็นผู้จัดการโหลดกระเป๋าเดินทาง เช็คอิน และกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองต่างๆในเวลาอันรวดเร็ว
"เอ็มเจ็ท"ยังมีบริการบอดี้การ์ดการรักษาความปลอดภัยส่วนบุคคลแบบครบวงจร โดยที่บริษัทเอ็มเจ็ทร่วมกับบริษัทแบงคอกโพรเทคชั่น เพื่อให้บริการรักษาความปลอดภัยส่วนบุคคล ด้วยทีมงานบอดื้การ์ดระดับมืออาชีพ
ทุนจดทะเบียน 150 ล้าน
บริษัท เอ็มเจ็ท จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2543
ทุนจดทะเบียน 150,000,000 บาท
เอ็มเจ็ท เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทยในปี พ.ศ. 2550 และมีศูนย์กลางการให้บริการประจำอยู่ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง กรุงเทพมหานคร โดยเป็นผู้บุกเบิกศูนย์บริการอากาศยานส่วนบุคคลอย่างครบวงจร (Fixed-Base Operation - FBO) เป็นแห่งแรกในประเทศไทย อีกทั้งยังขยายกิจการไปยังพม่า อินเดีย กัมพูชา และกำลังพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่องให้ครอบคลุมทุกประเทศสำคัญใน ASEAN
เอ็มเจ็ทผ่านการรับรองมาตรฐานเพิ่มเติมด้านความปลอดภัยในการปฏิบัติการบินสากล International Standard for Business Aircraft Operations: IS-BAO ระดับที่ 3 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด และมาตรฐานการให้บริการภาคพื้นดิน International Standard for Business Aircraft Handling: IS-BAH จาก International Business Aviation Council (IBAC)
และเป็นผู้ให้บริการเช่าเหมาลำเครื่องบินส่วนบุคคลรายเดียวในประเทศไทยที่สามารถให้บริการเที่ยวบินเช่าเหมาลำไปและกลับจากยุโรปได้เพราะผ่านการตรวจสอบและการรับรอง Third Country Operator (TCO) จาก European Aviation Safety Agency (EASA)