สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 27 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 80.10 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 6 เซนต์ หรือประมาณ 0.1% ปิดที่ 84.42 ดอลลาร์/บาร์เรล
โอเล แฮนสัน นักวิเคราะห์จาก Saxo Bank กล่าวว่า ตลาดจับตาพายุโซนร้อนอิดาเลียที่กำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่รัฐฟลอริดา และรอดูว่าราคาน้ำมันเบรนท์จะกลับมายืนที่เหนือระดับ 85 ดอลลาร์ได้อีกหรือไม่ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากจีน หลังจากที่จีนประกาศลดภาษีอากรสแตมป์สำหรับการซื้อขายหุ้นเมื่อวานนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะพลิกฟื้นความเชื่อมั่นของนักลงทุน
ทั้งนี้ คาดว่าพายุอิดาเลียจะทวีความรุนแรงจนกลายเป็นพายุเฮอร์ริเคนและพัดถล่มฝั่งตะวันออกของเขตกัลฟ์โคสต์ในรัฐฟลอริดา ซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำมันดิบที่สำคัญของสหรัฐ
โทนี ไซคามอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัท IG คาดการณ์ว่า พายุอิดาเลียมีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดปัญหาไฟฟ้าดับเป็นเวลา 1 หรือ 2 วัน และคาดว่าอิทธิพลของพายุลูกนี้จะส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น
อย่างไรก็ดี สัญญาน้ำมัน WTI ปิดขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย ขณะที่สัญญาน้ำมันเบรนท์ปิดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับผลกระทบของการที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดกล่าวในการประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮล เมื่อวันศุกร์ว่า เฟดอาจจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. และเทน้ำหนักมากกว่า 50% ในการคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ย. หลังนายพาวเวลส่งสัญญาณเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ